หน้า:วิญญาณยังอยู่ - ๒๕๐๗.pdf/76

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
68
 

ซึ่งอาจเป็นที่ซึ่งเบเรียใช้ขังนักโทษส่วนตัวของเขา คุณหญิงเมสติรี ภริยาท่านเอกอัครราชทูต ยืนยันว่า บรรดาเสียงกรีดร้องที่เธอได้ยินนั้นได้ดังมาจากทางห้องใต้ดินนี้อย่างแน่นอน

คำยืนยันของภริยาท่านเอกอัครราชทูตนี้สนับสนุนความเชื่อที่ว่า เบเรียเก็บพวกผู้หญิงที่เขาเที่ยวไปจับมาในเวลากลางคืนไว้ที่นั่น เรื่องมีมาว่า เวลากลางคืน เบเรียจะนั่งรถยนต์แบบกันกระสุนปืนได้ของเขาเที่ยวตระเวนไปตามถนนสายต่าง ๆ ในกรุงมอสโคว์ เมื่อได้พบสาว ๆ สวย ๆ เขาก็จะให้คนขับรถของเขาขับรถเข้ากระหนาบข้าง แล้วเขาก็ออกคำสั่งให้เหยื่อผู้แสนตระหนกตกใจนั้นขึ้นบนรถ ซึ่งไม่เคยมีใครจะกล้าขัดคำสั่งของเขาได้เลย

ต่อจากนั้น เบเรียจะพาเหยื่อของเขาไปสู่บ้าน ซึ่งเมื่อรถแล่นผ่านประตูกำแพงเข้าไปแล้ว บานประตูเหล็กอันหนักก็จะปิดดังปังอยู่เบื้องหลัง แล้วต่อจากนั้น จะมีอะไรเกิดขึ้นภายในกำแพงบ้านนั้น ไม่เคยมีใครล่วงรู้เลย. . . แต่เสียงที่เล่าลือกันก็มีว่า คณะพรรคขี้เมาหยำเปซึ่งมีเบเรีย กับเกลอสนิทของเขา มีรัฐมนตรีผู้ช่วยของเขาชื่อ อาเบกูมอฟ เป็นหัวโจก ได้ช่วยกันประกอบทารุณกรรมทางกามารมณ์อย่างป่าเถื่อนที่สุด

ความจริงของเรื่องราวที่กล่าวมานี้จะเป็นประการใดก็ตาม บรรยากาศของบ้านเก่าของเบเรียก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เหลือสติกำลังสำหรับครอบครัวของเอกอัครราชทูตเมสติรีผู้ซึ่งได้เดินทางกลับประเทศทูนีเซียแล้วจะทนทานได้ และอีกหลายเดือนต่อมา ทูตคนใหม่จึงมาแทน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม งานชิ้นแรกของเอกอัครราชทูตคนใหม่ก่อนที่จะเข้าอยู่บ้านกาลกิณีนี้ คือ ให้อาจารย์ในศาสนาอิสลามคนหนึ่งมาทำพิธีขับไล่วิญญาณร้ายด้วยเวทมนตร์ อันเป็นพิธีที่ได้ผลอย่างยิ่ง เพราะเมื่อได้ทำพิธีขับไล่แล้ว ก็ไม่ปรากฏว่า เกิดเรื่องราวร้าย ๆ ขึ้นอีกเลย