๑๗ ถามว่า คน ๓ จำพวกนี้ที่เปนนักเลงเพราะเหตุไร
ตอบว่า คนสูบฝิ่นกินสุรานั้นย่อมไปเที่ยวสูบฝิ่นกินสุราตามโรงฝิ่นโรงสุรา สูบฝิ่นกินสุราร่วมกับคนที่เปนนักเลงอยู่แล้วเนือง ๆ เมื่อพบปะคุ้นเคยกันในเวลามึนเมาด้วยกันบ่อย ๆ เข้า ก็เลยชอบพอเปนเพื่อนสาบาลให้พวกนักเลงชักพาไปจนกลายเปนนักเลงไปด้วย
คนเล่นเบี้ยนั้น เพราะเล่นเบี้ยเสียทรัพย์แล้วยังไม่รู้สิ้นความอยาก จึงหันลงไปเปนนักเลงโดยประสงค์จะหาทรัพย์มาเล่นเบี้ย
คนอยู่ในที่เปลี่ยวถิ่นนักเลงนั้น ดังเช่นคนที่ออกไปตั้งทำไร่นาอยู่ในที่เปลี่ยว ถูกผู้ร้ายรบกวนรังแกต่าง ๆ ทนไม่ไหว บางทีก็ต้องหันลงเปนนักเลงเสียบ้างพอเปนเครื่องป้องกันตัว เมื่อเข้าในพวกนักเลงแล้ว พวกนักเลงก็เกรงใจไม่กระทำร้าย และคุ้มไปได้ถึงญาติพี่น้องของตน ขอร้องไม่ให้เขากระทำร้ายก็ได้อยู่บ้าง ในข้อนี้ ถึงมิใช่ที่เปลี่ยวที่เปนตำบลบ้านมั่นคง ดังเช่นที่บ้านไม้ตรา เกาะใหญ่ เปนต้น ชาวบ้านเปนนักเลงโดยมากกว่าที่ไม่เปน ในที่เช่นนี้ ถึงคนที่ไม่เปนนักเลงเข้าไปอยู่ ก็มักจะต้องพลอยเปนนักเลงไปด้วย หาไม่ก็อยู่ไม่ได้
๑๘ ถามว่า นักเลงที่เริ่มแรกจะเปนผู้ร้ายปล้นสดมภ์นั้น ตั้งต้นก็ไปเข้าพวกผู้ร้ายปล้นสดมภ์ทีเดียวหรือ หรือว่าต้องฝึกหัดกันอย่างไรก่อนบ้าง
ตอบว่า ผู้ร้ายที่เข้าสมัคพรรคพวกกันทำการถึงปล้นสดมภ์มักจะเปนคนที่ชำนาญการโจรกรรมแล้วทั้งนั้น คนใหม่มาทีเดียว ผู้ร้าย