หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๘

ไหน ถ้าพอจะต้อนเข้าทางใด ก็ต้อนเข้าทางกระบือฝูงไปไกล ๆ แล้วจึงแยกไปเสียทางอื่น เพราะทางกระบือฝูงนั้น กระบือฝูงมักจะเดิรอยู่เสมอ ถ้ากระบือฝูงเดิรเหยียบรอยกระบือที่ต้อนไปพักเดียว รอยก็ปนกันเลือนไป ไม่เปนที่สังเกตของพวกเจ้าของได้

๘๐ ถามว่า ปล้นไล่ฝูงโคกระบือ ทำไมจึงปล้นเวลาบ่าย ตอบว่า ถ้าปล้นเวลาเช้า กระบือไปถูกแดดจัดก็หอบเพลีย ต้อนไปไม่ได้ไกล จึงต้องปล้นเวลาบ่าย ไล่ต้อนไปในเวลาแดดอ่อน ต้อนไปได้จนตลอดคืน กระบือไม่หอบ

๗๑ ถามว่า ขวากที่ใช้นั้นอย่างไร

ตอบว่า ขวากที่ใช้นั้นเปน ๓ อย่าง คือ ขวากกระจับ อย่าง ๑ ขวากคน อย่าง ๑ ขวากม้า อย่าง ๑ ทำด้วยไม้รวกทั้ง ๓ อย่าง

ขวากกระจับนั้นผูกเปน ๔ คม ทิ้งลงคงมีคมขึ้นตั้งอยู่ ไม่ต้องปัก ใช้ได้ในการปัจจุบันทันด่วน แต่ทำยาก และเอาไปยาก ผู้ร้ายไม่ใคร่ใช้

ขวากคนนั้นมี ๓ ขนาด ขนาดเล็ก สำหรับปักให้ตำเท้าอย่าง ๑ ขนาดกลาง สำหรับปักให้ตำหน้าแข้ง อย่าง ๑ ขนาดยาว สำหรับปักให้ตำโคนขา อย่าง ๑ แต่ขนาดเล็กเปนดีกว่าทุกอย่าง เรียกว่า ขวากขุนด่าน เหลาด้วยไม้รวกแบน ๆ เสี้ยมปลายให้แหลม หยักปลายเปนเงี่ยง ลนไฟเสียพอเปราะ ปักไว้พอเสมอยอดหญ้า พอเหยียบเข้าก็เท้าทลุและหักคาเท้าทีเดียว ผู้ร้ายใช้อย่างนี้มาก อย่างกลาง อย่างใหญ่ ไม่ใคร่ใช้