หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘.pdf/45

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๔

และพลตระเวนซึ่งประจำโรงพักนั้นไปเที่ยวเตร่เลยชอบพอเปนเพื่อนฝูงกับพวกนักเลงไปก็มี การบนบกที่ผู้ร้ายเกรงตำรวจภูธรและพลตระเวนมากอยู่ แต่เมื่อต้อนฝูงโคกระบือไปมาก ๆ ถ้าตำรวจภูธรหรือพลตระเวนติดตาม ไม่ทิ้งแล้วเอาไปไม่ใคร่ได้ ดังเช่น ปล้นที่บางซอ พวกตำรวจภูธรเมืองสุพรรณติดตามมาจนถึงทุ่งลานเท ผู้ร้ายก็ต้องทิ้งกระบือ เอาไปไม่ได้

๙๙ ถามว่า ตำรวจภูธรในเวลากลางคืนเขาก็ออกเดิรตรวจตราอยู่เสมอ จะว่าเขาอยู่แต่โรงพักอย่างไร

ตอบว่า ตำรวจภูธรออกตรวจในเวลากลางคืนจริง แต่เวลาตำรวจภูธรไปตรวจ มักตรงไปถามเหตุการณ์ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ถึงผู้ร้ายจะแอบแฝงอยู่ในหมู่บ้านนั้น ก็พอรู้ตัวมีเวลาหลบหนีไปได้

๑๐๐ ถามว่า ในการที่เจ้าพนักงารติดตามสืบจับผู้ร้าย ๆ ต่อสู้เจ้าพนักงารอย่างใดบ้างหรือไม่

ตอบว่า ไม่เคยได้ยินว่า ผู้ร้ายคิดอ่านต่อสู้อย่างใด เห็นคิดแต่จะหนีอย่างเดียว ที่ต่อสู้เห็นมีแต่ร้ายใจฉกรรจ์ เช่น อ้ายรัก ก็ต่อสู้แต่เวลาจวนตัวเมื่อเจ้าพนักงารจะจับ

๑๐๑ ถามว่า ได้ยินว่า ผู้ร้ายคิดจะปล้นโรงพักตำรวจภูธรที่ลานเทครั้งหนึ่งจริงหรือ

ตอบว่า ได้ยินแต่อ้ายรักกับอ้ายยวงพูดว่า ๆ ถ้าจะปล้นโรงพักที่ลานเทเอาปืนตำรวจภูธรก็จะได้ เพราะบางเวลา มีตำรวจอยู่รักษาโรงพักนั้นเพียง ๒ คน ๓ คน เปนแต่พูด ๆ อย่างนี้ ไม่ปรากฎว่า ได้คิด