หน้า:สยามแพทย์ - ๒๔๖๗.pdf/16

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑
สยามแพทยศาสตร์

สลอดน้ำ ๑ รากคันทรง ๑ ก้ามปูทเลเผาไฟ ๑ ดินประสิวขาว ๑ ยาทั้งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดเปนแท่งละลายน้ำดอกไม้สด ทั้งกินทั้งพ่น แก้ร้อน แก้กระหายน้ำ เสโทตก ก็หายแล ตำราหนึ่งแปลกเข้ามา ดอกบุนนาก ๑ รากคันทรง ๑ ฯ

อนึ่ง เตโชธาตุชื่อว่า ชรัคคี คือ มัจจุราชนั้นไซ้มาประเล้าประโลมฝูงสัตว์ทั้งหลาย คือ ชายหญิงทั้งปวง เมื่อชีวิตจะออกจากร่างกายแห่งตนนั้น วิปริตไปต่าง ๆ คือ ให้หน้าผากตึง ในตาแลดูไม่รู้จักอะไรแล้วกลับมาเล่า หูตึงแล้วกลับไปได้ยินมาเล่า จมูกไม่รู้จักกลิ่นเหม็นแลหอมแล้วกลับมารู้จักกลิ่นเหม็นแลหอมเล่า ลิ้นไม่รู้จักรศอันใดเลยแล้วก็กลับมารู้จักรศอีกเล่า กายนั้นถูกต้องสิ่งใด ๆ ก็ไม่รู้สึกตัวก็กลับมารู้สึกตัวอีกเล่า แต่แปรไปแปรมาดังนี้ จะเทียบลงมิได้ก่อน ด้วยว่า นางชรานั้นไม่ไปทีเดียว แต่ว่า แตกร้าวทะลายอยู่แล้ว จึงได้ชื่อว่า ชรัคคีนั้นแตก จึงเปนกังกล่าวมานี้ แพทย์พึงรู้เถิด ถ้าจะแก้ ท่านให้เอาบรเพ็ด ๑ ผลพิลังกาสา ๑ ผักแพวแดง ๑ ผลมูกมัน ๑ ใบย่างทราย ๑ เอาส่วนเท่ากัน ตำผงละลายน้ำผึ้งแซกเชือกเถามวกก็ได้ น้ำนมโคก็ได้ กินแก้เตโชชื่อว่า ชรัคคี แตก แล ฯ

อันว่าเตโชธาตุชื่อว่า สันตัปปคิ นั้น ถ้าแตกแล้วเมื่อใด แพทย์ทั้งหลายจะแก้มิได้เลย ตายเปนอันเที่ยงแล ฯ

เตโชธาตุ ๔ จบแต่เท่านี้ ฯ

ปุนะจะปรัง ทีนี้ จะแสดงซึ่งวาโยธาตุ ๖ ต่อไปตามเรื่อง อุทธังคะมาวาตาแตกนั้น คือ ให้ดิ้นรน มือแลเท้าขวักไขว่ ให้พลิกตัวไป ๆ มา ๆ ให้ทุรนทุราย ให้หาวให้เรอบ่อย ๆ ถ้าจะแก้ ท่านให้เอาโกฎสอ ๑ โกฎเขมา ๑ ผลราชดัด ๑ ผลสาระพัดพิษ ๑ ผลมะแว้งทั้ง ๒ รากจิงจ้อทั้ง ๒ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑