หน้า:สยามแพทย์ - ๒๔๖๗.pdf/7

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
สยามแพทยศาสตร์

อุปปาติกะ ไม่มีสิ่งใด ๆ ก็เกิดขึ้น อันว่ามนุษย์ทั้งหลาย คือ ปฏิสนธิแล้ว ก็คลอดจากครรภ์มารดา มีกายประเภทต่าง ๆ จากผู้ชายนั้น ๔ ประการ คือ ถันประโยธรนั้นประการ ๑ จริตกิริยานั้นประการ ๑ ประเวณีนั้นประการ ๑ ต่อมเลือดฤดูนั้นประการ ๑ จึงเปน ๔ ประการดังนี้ ฯ

มีพระบาลีดังนี้ โลหิตทหยังชาตัง อันว่าฤดูโลหิตแห่งหญิงมีฤดูมานั้น ให้คลั่งเพ้อไปเจรจาด้วยผี ให้นอนสดุ้งหวาด มักขึ้งมักโกรธไปต่าง ๆ ครั้นฤดูมีออกมาแล้ว ก็หายเภทที่เปนนั้นแล ฯ

ปิตตังชาตัง โลหิตอันเกิดแต่ขั้วดีนั้น เมื่อจะมีฤดูมานั้น ให้คลั่งไคล้เลมอเพ้อเจรจาด้วยผี ให้นอนสดุ้งหวาดไป ครั้นมีฤดูออกมาแล้ว ก็หายเภทนั้นแล ฯ

มังสังชาตัง อันว่าฤดูอันเกิดแต่ผิวเนื้อนั้น ให้นอนร้อนผิวเนื้อผิวหนังให้แดงดุจผลตำลึงสุก บางทีก็ให้ผุดขึ้นทั้งตัวดุจออกหัดแลฟกเปนดังไข้รากสาด เปนไปถึง ๒ วัน ๓ วัน ครั้นมีฤดูออกมาแล้ว ก็คลายไป ฯ

นะหารูชาตัง อันว่าโลหิตอันบังเกิดมาแต่เส้นเอ็นทั้งปวงนั้น เมื่อจะใกล้มีฤดูมา ให้เปนประดุจดังไข้จับ ให้สบัดร้อนสบัดหนาวปวดสีสะเปนกำลัง ครั้นมีฤดูออกมาแล้ว ก็หายไปแล ฯ

อัฏฐิกังชาตัง อันว่าโลหิตอันเกิดมาแต่กระดูกนั้น เมื่อใกล้มีฤดูมา ให้เมื่อยให้ขบไปทุกข้อดังจะขาดจากกัน ให้เจ็บบั้นเอวสันหลังยิ่งนัก มักบิดเกียจคร้านบ่อย ๆ ครั้นมีฤดูออกมาแล้ว ก็หายแล ฯ

สิทธิการิยะ พระครูผู้เฒ่าท่านกล่าวไว้ว่า ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาโลหิตฤดูแห่งหญิงอันมีฤดูมาแล้วแลกลับแห้งไปก็ดีแต่รุ่นสาวขึ้นมา แลอายุควรจะมีฤดูมาแล้วแลไม่มีฤดูมาตามประเวณี บางทีมีฤดูมาแล้วกลับแห้งไปก็มี บางคนแต่รุ่นสาวได้ ๑๔ ปี ๑๕ ปี ก็ยังไม่มีฤดู ต่อมี