การภาคยานุวัติจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังคณะมนตรีสหพันธ์สวิส และจะมีผลบังคับเมื่อครบหกเดือนหลังจากวันที่ได้รับทราบการแจ้งนั้น
คณะมนตรีสหพันธ์สวิสจะต้องแจ้งการภาคยานุวัติไปยังประเทศต่าง ๆ ที่ได้ลงนามไว้หรือที่ได้แจ้งการภาคยานุวัติอนุสัญญาแล้ว
สถานการณ์ดังที่ได้บัญญัติไว้ในข้อ ๒ และ ๓ จะเกิดผลทันทีแก่สัตยาบันสารที่ได้มอบไว้ และการภาคยานุวัติที่ได้แจ้งแล้วโดยภาคีคู่พิพาท ก่อนหรือภายหลังการเริ่มสู้รบหรือการยึดครอง คณะมนตรีสหพันธ์สวิสจะต้องแจ้งการสัตยาบัน หรือการภาคยานุวัติใด ๆ ที่ได้รับจากภาคีคู่พิพาทโดยวิธีที่เร็วที่สุด
อัครภาคีผู้ทำสัญญาแต่ละฝ่ายย่อมมีเสรีภาพ ที่จะบอกเลิกอนุสัญญาฉบับนี้
การบอกเลิกนี้จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังคณะมนตรีสหพันธ์สวิส ซึ่งจะได้ส่งต่อไปยังรัฐบาลของอัครภาคีผู้ทำสัญญาทั้งปวง
การบอกเลิกจะมีผลเมื่อครบหนึ่งปีภายหลังที่ได้แจ้งไปให้คณะมนตรีสหพันธ์สวิสทราบ อย่างไรก็ดีการบอกเลิกซึ่งได้แจ้งไปในขณะที่ประเทศที่บอกเลิกนั้นยังพัวพันอยู่ในการพิพาทใดๆ จะไม่มีผลจนกว่าจะได้ทำสัญญาสันติภาพกันแล้ว และภายหลังที่การดำเนินการเกี่ยวกับการปล่อยตัวและการส่งตัวกลับประเทศเดิมของบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากอนุสัญญานี้ได้ยุติลงแล้ว
การบอกเลิกจะมีผลแต่เฉพาะที่เกี่ยวกับประเทศที่บอกเลิกเท่านั้น การบอกเลิกนี้จะไม่บั่นทอนพันธกรณีซึ่งภาคีคู่พิพาทยังจะต้องปฏิบัติตามโดยอาศัยหลักแห่งกฎหมายระหว่างประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากจารีตประเพณีซึ่งเป็นที่รับรู้กันในระหว่างอารยชน จากกฎแห่งมนุษยธรรมและจากความรู้สึกผิดชอบของมหาชน
คณะมนตรีสหพันธ์สวิสจะต้องจัดการจดทะเบียนอนุสัญญานี้ไว้ ณ สำนักงานเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีสหพันธ์สวิสจะต้องแจ้งบรรดาการให้สัตยาบัน การภาคยานุวัติ และการบอกเลิกที่ตนได้รับเกี่ยวกับอนุสัญญาฉบับนี้ให้สำนักงานเลขาธิการแห่งสหประชาชาติทราบด้วย
เพื่อเป็นพยานแก่การนี้ ผู้ลงนามข้างท้ายนี้ซึ่งได้ส่งมอบสารแสดงการได้รับมอบอำนาจเต็มของตนไว้แล้วได้ลงนามในอนุสัญญาฉบับนี้
ทำ ณ กรุงเจนีวา เมื่อวันที่สิบสอง เดือนสิงหาคม ค.ศ.๑๙๔๙ เป็นภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ต้นฉบับจะได้เก็บรักษาไว้ ณ สำนักงานบรรณสารของสมาพันธ์รัฐสวิส คณะมนตรีสหพันธ์สวิสจะได้ส่งสำเนาอนุสัญญาอันรับรองว่าถูกต้องแล้วไปยังแต่ละรัฐที่ได้ลงนามและรัฐที่ได้ทำการภาคยานุวัติอนุสัญญาฉบับนี้