หน้า:อนุสัญญาเจนีวา (อทร.).pdf/39

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ถ้าไม่อาจจัดความคุ้มครองตามนัยดังกล่าวแล้ว ให้ประเทศที่กักคุมร้องขอหรือรับสนองบริการขององค์การมนุษยธรรม เช่น คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นต้น ภายในบังคับของบทบัญญัติแห่งข้อนี้ที่จะเข้ารับหน้าที่ในทางมนุษยธรรมซึ่งประเทศที่คุ้มครองเป็นผู้ปฏิบัติอยู่ตามอนุสัญญานี้

ประเทศที่เป็นกลางประเทศใดหรือองค์การใด ซึ่งได้รับเชิญจากประเทศที่เกี่ยวข้อง หรือเสนอตนเองเพื่อการนี้ จะต้องปฏิบัติการด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบต่อภาคีคู่พิพาทซึ่งผู้ที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญานี้สังกัดอยู่ และต้องให้คํารับรองอันพอเพียงว่าตนอยู่ในฐานะที่จะเข้ารับหน้าที่ตามสมควร และจะปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยไม่ลําเอียง

ประเทศต่าง ๆ จะทําความตกลงพิเศษใด ๆ อันชัดต่อบทบัญญัติข้างต้นหาได้ไม่ ในเมื่อประเทศหนึ่งในบรรดาประเทศเหล่านั้นถูกกํากัดเสรีภาพแม้เป็นเพียงชั่วคราวก็ดี ในการที่จะเจรจากับประเทศอื่นหรือพันธมิตรของตน โดยเหตุผลอันเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางทหาร เฉพาะอย่างยิ่งในเมื่ออาณาเขตทั้งหมดหรืออาณาเขตส่วนใหญ่ของประเทศดังกล่าวถูกยืดครอง

เมื่อใดในอนุสัญญานี้มีข้อความกล่าวถึงประเทศที่คุ้มครอง ข้อความนั้นให้ใช้แก่องค์การต่าง ๆ ที่เข้ามาแทนตามนัยแห่งข้อนี้ด้วย

ข้อ ๑๑

ในกรณีที่เห็นว่าเป็นการสมควรเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง โดยเคพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการขัดแย้งกันในระหว่างภาคีคู่พิพาทเกี่ยวกับการใช้ หรือการตีความบทบัญญัติต่าง ๆ แห่งอนุสัญญานี้ ประเทศที่คุ้มครองจะได้อํานวยความช่วยเหลือเพื่อทําความตกลงในข้อที่ขัดแย้งกันนั้น

เพื่อการนี้ประเทศที่คุ้มครองแต่ละประเทศ จะเป็นโดยการเชื้อเชิญของภาคีฝ่ายหนึ่งหรือโดยการริเริ่มของตนเองก็ตาม อาจเสนอต่อภาคีคู่พิพาทให้มีการประชุมระหว่างผู้แทนของตนและโดยเฉพาะอย่างระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ และเรือต้องอับปาง พนักงานแพทย์ และอนุศาสนาจารย์ก็ได้ ซึ่งถ้าอาจทำได้ก็ให้ก็ให้ประชุมกันในอาณาเขตที่เป็นกลางอันได้จัดเลือกขึ้นตามความเหมาะสม ภาคีคู่พิพาทมีข้อผูกพันที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อที่ได้เสนอมายังตนเพื่อการนี้ ถ้าจําเป็นประเทศทีคุ้มครองอาจเสนอขอความเห็นชอบจากภาคีคู่พิพาทในตัวบุคคลแห่งประเทศที่เป็นกลาง หรือที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการกาชาตระหว่างประเทศซึ่งจะได้รับเชิญให้เข้าว่วมการประชุมดังกล่าวก็ได้


ส่วนที่ ๒
ผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ และเรือต้องอับปาง
ข้อ ๑๒

ผู้สังกัดในกองทัพและบุคคลอื่นที่จะได้กล่าวถึงในข้อต่อไปนี้ ซึ่งอยู่ในทะเลและซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้องอับปาง จะต้องได้รับความเคารพ และคุ้มครองในทุกพฤติการณ์ โดยให้เป็นที่เข้าใจว่า คำว่า "เรืออับปาง" นั้น หมายถึง เรืออับปางโดยเหตุใด ๆ ก็ตาม และรวมความตลอดถึงการถูกบังคับให้ลงสู่ทะเลโดยหรือจากอากาศยาน

๒๙