หน้า:อนุสัญญาเจนีวา (อทร.).pdf/41

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
ข้อ ๑๔

บรรดาเรือรบทั้งปวงของผู้ที่เป็นฝ่ายในสงครามมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้องอับปางที่อยู่บนเรือพยาบาลของทหาร และเรือพยาบาลของสมาคมบรรเทาทุกข์ หรือของบุคคล เอกชน ตลอดจนเรือพาณิชย์ เรือยอชต์ และเรืออย่างอื่นต้องยอมมอบตัว ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวนั้นจะมีสัญชาติได หากว่าผู้บาดเจ็บและป่วยไข้นั้นอยู่ในสภาพที่จะพึงขนย้ายไปได้ และเรือรบนั้นสามารถที่จะให้ความสะดวกอันพอเพียงสำหรับการรักษาพยาบาลอันจําเป็น

ข้อ ๑๕

ถ้ามีการรับตัวผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้ออับปางไว้บนเรือรบของประเทศที่เป็นกลางหรืออากาศยานทหารที่เป็นกลางก็ให้จัดประกันมิให้บุคคลดังกล่าวนั้นสามารถกลับเข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามได้อีกต่อไปในกรณีที่กฎหมายระหว่างประเทศบังคับไว้เช่นนั้น

ข้อ ๑๖

ภายใต้บทบังคับบัญญัติแห่งข้อ ๑๒ ผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ และเรือต้องอับปาง ของผู้ที่เป็นฝ่ายในสงครามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของฝ่ายศัตรูนั้น ให้ถือว่าเป็นเชลยศึก และให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับเชลยศคกมาใช้บังคับแก่บุคคลเหล่านั้น ผู้จับกุมอาจลงความเห็นตามพฤติการณ์ว่าเป็นการสมควรที่จะควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวไว้ หรือจะนำตัวไปยังท่าเรือในประเทศของผู้จับกุม ท่าเรือที่เป็นกลางหรือท่าเรือในอาณาเขตของศัตรูเองก็ได้ ในกรณีหลังนี้ห้ามมิให้เชลยศึกที่กลับไปสู่ประเทศของตนนั้น ๆ เข้ารับหน้าที่เป็นทหารประจำการตลอดเวลาสงครามนั้น

ข้อ ๑๗

ผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้องอับปาง ซึ่งได้ถูกส่งขึ้นบก ณ ท่าของประเทศที่เป็นกลางโดยความยินยอมของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นนั้น หากไม่มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่นระหว่างประเทศที่เป็นกลางกับประเทศที่เป็นฝ่ายในสงครามแล้ว ให้ประเทศที่เป็นกลางควบคุมตัวไว้เพื่อมิให้เข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามได้อีก ในกรณีที่กฎหมายระหว่างประเทศบังคับไว้เช่นนั้น

ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการกักกันนั้นให้ประเทศซึ่งผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้องอับปางนั้นสังกัดอยู่เป็นผู้ชำระ

ข้อ ๑๘

ภายหลังการปะทะกันแต่ละครั้ง ภาคีคู่พิพาทจะต้องจัดการเท่าที่จะทําได้โดยทุกประการ โดยไม่ชักช้า เพื่อค้นหาและรวบรวมผู้ซึ่งเรือต้องอับปาง บาดเจ็บ และป่วยไข้ เพื่อให้ความคุ้มครองบุคคลที่ว่านี้จากการโจรกรรมและการปฏิบัติอันเลวทราม เพื่อจัดให้ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเพียงพอ และเพื่อค้นหาผู้ตาย และป้องกันมิให้ศพถูกทําลาย

ในเมื่อพฤติการณ์จักอํานวยให้ ให้ภาคีคู่พิพาททําการตกลงเฉพาะพื้นที่เพื่อขนย้ายผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ทางทะเลจากเขตที่ถูกปิด หรือถูกล้อมไว้ และเพื่อให้พนักงานแพทย์ และพนักงานศาสนาพร้อมด้วยบริภัณฑ์ได้ผ่านไปสู่เขตนั้นได้

๓๑