หน้า:อัลกุรอานภาษาไทย - อะบู อิสรอฟีล - ๒๕๖๓.pdf/10

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

{2:96} และแน่นอนเธอจะพบว่า พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ห่วงใยต่อชีวิตมากที่สุด และยิ่งกว่าบรรดาผู้ที่ ตั้งภาคีเสียอีก แต่ละคนใคร่ที่จะมีอายุยืนถึงพันปี ถึงกระนั้นก็ไม่อาจคุ้มกันเขาให้พ้นจากการถูก ลงโทษได้ แม้จะมีอายุยืนก็ตาม และอัลลอฮฺทรงเห็นในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน

{2:97} จงกล่าวเถิดว่า "ผู้ใดเล่าที่เป็นศัตรูต่อญิบรีล?" แท้จริงโดยอนุมัติของอัลลอฮฺ เขาได้ทยอย นำอัลกุรอานลงมายังหัวใจของเธอ เป็นสิ่งยืนยันสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาก่อนหน้านั้น และเป็นทาง นำและข่าวดีสำหรับบรรดาผู้ที่มีศรัทธา

{2:98} ผู้ใดเป็นศัตรูต่ออัลลอฮฺ ต่อมะลาอิกะฮฺ ต่อบรรดาศาสนทูตของพระองค์ ต่อญิบรีลและต่อมีกาล อัลลอฮฺก็จะทรงเป็นศัตรูต่อบรรดาผู้ปฏิเสธ

{2:99} เราได้ประทานบรรดาสัญญาณอันชัดแจ้งมายังเธอแล้ว และไม่มีผู้ใดปฏิเสธสิ่งนั้นได้ นอกจากบรรดาผู้ฝ่าฝืน

{2:100} และทุกครั้งที่พวกเขาได้ให้คำมั่นสัญญาอันใดไว้ พวกเขากลุ่มหนึ่งก็ได้ละทิ้งสัญญากระนั้น หรือ? ทว่าพวกเขาส่วนมากต่างหากที่ไม่มีศรัทธา

{2:101} และเมื่อใดก็ตามที่ศาสนทูตจากอัลลอฮฺมายังพวกเขา เป็นผู้ยืนยันคัมภีร์ที่มีอยู่กับพวกเขา กลุ่มหนึ่งจากบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ก็จะทิ้งคัมภีร์ของอัลลอฮฺไว้ข้างหลัง ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่รู้อะไร

{2:102} และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่เหล่าชัยฏอนได้อ่านในรัชสมัยสุลัยมาน สุลัยมานไม่ได้ ปฏิเสธศรัทธาดอก แต่เหล่าชัยฏอนต่างหากที่ปฏิเสธศรัทธา เพราะพวกเขาสอนไสยศาสตร์ให้แก่ผู้คน และพวกเขา(ปฏิบัติตาม)สิ่งที่ถูกนำลงมาแก่มะลักสองตนที่บาบิล นั่นคือฮารูตและมารูต เขาทั้งสอง จะไม่สอนไสยศาสตร์แก่ผู้ใด จนกว่าเขาทั้งสองจะกล่าวว่า "อันเรานี้เป็นเพียงการทดสอบอย่างหนึ่ง ดังนั้นเธอจงอย่าปฏิเสธศรัทธา" แล้วจากทั้งสอง พวกเขาก็ได้เรียนรู้วิชาที่ทำให้เกิดความแตกแยก ระหว่างบุรุษและภรรยาของเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่อาจใช้ไสยศาสตร์ทำอันตรายแก่ผู้ใดโดย ปราศจากการอนุมัติของอัลลอฮฺ แต่พวกเขาก็ยังคงเรียนสิ่งที่ให้โทษแก่ตนเอง และไม่ได้ให้คุณประ โยชน์แก่ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขารู้ดีว่า ผู้ใดที่ซื้อศาสตร์นี้ไป จะไม่ได้รับส่วนแบ่งอันใดในปรโลก และช่างเลวร้ายเสียนี่กระไร สิ่งที่พวกเขาเอาตัวตนเข้าไปแลก ถ้าหากว่าพวกเขารู้ก็คงดี

{2:103} ถ้าหากพวกเขามีศรัทธาในอัลลอฮฺ และสำรวมตนจากความชั่ว พวกเขาจะได้รับรางวัลตอบ แทนที่ดีกว่าจากอัลลอฮฺ ถ้าหากว่าพวกเขาได้รู้

{2:104} โอ้ บรรดาผู้ที่มีศรัทธา! จงอย่ากล่าวว่า "รออินา" แต่จงกล่าวว่า "อุนซุรนา" และจงฟังสิ่งที่ได้ถูกกล่าวไป สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธนั้น คือการลงโทษอันเจ็บปวด

{2:105} บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นชาวคัมภีร์ หรือพวกตั้งภาคี ไม่ปรารถนาที่จะเห็นความดีอันใดจากพระเจ้าของพวกเธอถูกส่งมายังพวกเธอ ทั้ง ๆ ที่อัลลอฮฺทรงเจาะ จงความเมตตาของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮฺคือพระเจ้าแห่งความโปรดปรานอัน ใหญ่หลวง

{2:106} โองการใดที่เราได้ยกเลิกหรือถูกทำให้ลืมเลือน เราก็ได้นำสิ่งที่ดีกว่าหรือที่เท่าเทียมกันมา ทดแทน พวกเธอไม่รู้หรือว่า อัลลอฮฺคือพระผู้ทรงมีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่ง

{2:107} พวกเธอไม่รู้หรือว่า อํานาจแห่งเหล่าชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และ พวกเธอไม่มีผู้ใดเป็นผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือเลย นอกจากอัลลอฮฺ

{2:108} หรือพวกเธออยากจะถามศาสนทูตของพวกเธอดั่งที่มูซาได้ถูกถามแต่ก่อนนี้? ผู้ใดที่เอาการ ปฏิเสธมาแลกกับการศรัทธา เขาผู้นั้นก็หลงไปจากทางที่เที่ยงตรง

{2:109} ชาวคัมภีร์ส่วนมากต้องการที่จะหันพวกเธอกลับไปยังการปฏิเสธ หลังจากการมีศรัทธาของ พวกเธอ ทั้งนี้เนื่องด้วยความอิจฉาของพวกเขา หลังจากที่สัจธรรมได้เป็นที่แจ่มแจ้งแก่พวกเขาแล้ว ดังนั้นพวกเธอจงแสดงความอดทนและให้อภัยแก่พวกเขา จนกว่าอัลลอฮฺจะได้มีพระบัญชาลงมา อัลลอฮฺคือพระผู้ทรงมีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่ง