หน้า:อัลกุรอานภาษาไทย - อะบู อิสรอฟีล - ๒๕๖๓.pdf/12

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

{2:125} และเมื่อเราได้ให้บ้านหลังนั้นเป็นศูนย์รวมสำหรับปวงมนุษย์และเป็นที่ปลอดภัย และพวก เธอจงยึดเอาสถานที่ยืนของอิบรอฮีม เป็นที่นมาซเถิด และเราได้สั่งเสียแก่อิบรอฮีมและอิสมาอีลว่า "เธอทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของฉัน สำหรับบรรดาผู้เวียนฏ็อวาฟ และบรรดาผู้บำเพ็ญการ เคารพสักการะ และบรรดาผู้ที่ก้มรุกูอฺ และกราบ"

{2:126} และเมื่ออิบรอฮีมได้วิงวอนว่า "พระเจ้าของข้าฯ! โปรดบันดาลให้ที่แห่งนี้เป็นเมืองที่ ปลอดภัย และโปรดประทานบรรดาผลไม้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่ชาวเมืองนี้ ผู้ที่มีศรัทธาต่ออัลลอฮฺและ วันปรโลก" พระองค์ตรัสว่า "ผู้ใดที่ปฏิเสธการศรัทธา ฉันจะให้เขาได้รับความสำราญสักนิด แล้วฉัน จะบีบบังคับให้เขาไปสู่การทรมานแห่งนรก และมันเป็นจุดหมายปลายทางอันเลวร้ายยิ่ง"

{2:127} และเมื่ออิบรอฮีมและอิสมาอีล ได้ก่อฐานของบ้านหลังนั้นให้สูงขึ้น "พระเจ้าของพวกข้าฯ! โปรดรับ(การงาน)จากพวกข้าฯด้วยเถิด แท้จริงพระองค์นั้น คือพระผู้ทรงได้ยิน พระผู้ทรงรอบรู้"

{2:128} "พระเจ้าของพวกข้าฯ! โปรดทำให้ข้าฯทั้งสองเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์ และโปรดทำให้ มีประชาชาติที่สวามิภักดิ์ต่อพระองค์จากลูกหลานของพวกข้าฯ และโปรดแสดงให้พวกข้าฯเห็นศาสน พิธีของพวกข้าฯ และโปรดนิรโทษแก่พวกข้าฯ พระองค์คือพระผู้ทรงนิรโทษ พระผู้ทรงปรานีเสมอ"

{2:129} "พระเจ้าของพวกข้าฯ! โปรดส่งศาสนทูตคนหนึ่งมาในหมู่พวกเขา ซึ่งเป็นผู้ที่มาจากพวก เขาเอง เพื่ออ่านโองการทั้งหลายของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาให้แก่พวก เขา และขัดเกลาพวกเขาให้บริสุทธิ์ แท้จริงพระองค์คือพระผู้ทรงมีอํานาจ พระผู้ทรงมีปรีชาญาณ

{2:130} แล้วผู้ใดเล่าที่อยากออกนอกแนวทางของอิบรอฮีม นอกจากผู้ที่ทำให้ตนเองโฉดเขลา แท้ จริงเราได้เลือกเอาเขา(เป็นศาสนทูต)ในโลกนี้ และแท้จริงในปรโลก เขาก็จะอยู่ในหมู่คนดี

{2:131} (จงรำลึก)เมื่อพระเจ้าของเขาได้กล่าวแก่เขาว่า "เธอจงสวามิภักดิ์เถิด" เขากล่าวว่า "ข้าฯ ได้สวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าแห่งสากลโลกแล้ว"

{2:132} และอิบรอฮีมได้สั่งเสียบุตรหลานของตนให้ปฏิบัติตามแนวทางนั้น และยะอฺกูบก็เช่นกัน "โอ้ ลูก ๆ ของฉันเอ๋ย! อัลลอฮฺได้ทรงเลือกแนวทางแห่งชีวิตนี้สำหรับพวกเธอแล้ว ดังนั้นจงอย่าตาย นอก จากในอาการที่พวกเธอเป็นผู้สวามิภักดิ์"

{2:133} หรือว่าพวกเธออยู่ด้วย เมื่อความตายได้เยี่ยมกรายยะอฺกูบ ขณะที่เขากล่าว แก่เหล่าบุตร หลานของตนว่า "พวกเธอจะเคารพสักการะอะไรหลังจากฉัน?" พวกเขากล่าวว่า "พวกเราจะเคารพสัก การะพระเจ้าของท่าน และพระเจ้าของบรรดาบิดาของท่าน คืออิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสหาก แต่ เพียงองค์เดียว และต่อพระองค์ เราเป็นผู้สวามิภักดิ์"

{2:134} นั้นคือ หมู่ชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้ ก็ย่อมได้แก่พวกตน และสิ่งที่พวก เธอขวนขวายไว้ก็ย่อมได้แก่พวกเธอ และพวกเธอจะไม่ถูกไต่สวนถึงสิ่งที่พวกเขากระทำ

{2:135} และพวกเขากล่าวว่า "พวกท่านจงเป็นยิวหรือเป็นคริสเตียนเถิด พวกท่านก็จะได้รับการชี้ นำอันถูกต้อง" จงกล่าวเถิด "ทว่าแนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความสัตย์จริงต่างหาก และเขาไม่เคย เป็นหนึ่งในเหล่าผู้ตั้งภาคี"

{2:136} พวกเธอจงกล่าวเถิดว่า "เรามีศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เรา และที่ได้ถูกประทานลงมาแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสหาก และยะอฺกูบ และบรรดาวงศ์วานนั้น และที่ได้ถูกประทานมาแก่มูซา และอีซา และที่ได้ถูกประทานมาแก่นบีทั้งหลาย จากพระเจ้าของพวก เขา เราไม่ได้จําแนกคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขา และต่อพระองค์ เราเป็นผู้สวามิภักดิ์"

{2:137} แล้วหากพวกเขามีศรัทธาอย่างที่พวกเธอมีศรัทธาแล้ว แน่นอนพวกเขาก็ย่อมได้รับการชี้ นำที่ถูกต้อง และหากพวกเขาผินหลังให้ แน่นอนพวกเขาย่อมอยู่ในความแตกแยกกัน แล้วอัลลอฮฺก็ จะทรงทำให้เธอพอเพียงสำหรับพวกเขา และพระองค์คือพระผู้ทรงได้ยิน พระทรงรอบรู้

{2:138} นั่นเป็นการย้อมสีของอัลลอฮฺ และผู้ใดอีกเล่าจะย้อมสีดียิ่งกว่าอัลลอฮฺ? และเพียงพระองค์ พวกเราเป็นผู้เคารพสักการะ

{2:139} จงกล่าวเถิดว่า "พวกเธอจะโต้แย้งกับพวกเราในเรื่องของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่