หน้า:เทศาภิบาล - ดำรง - ๒๔๙๘.pdf/42

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๗

แผนกการปราบปรามโจรผู้ร้ายกับการที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างประเทศ แต่ภายหลัง โอนการที่เกี่ยวกับต่างประเทศไปเป็นหน้าที่ปลัดทูลฉลอง ให้กรมมหาดไทยฝ่ายเหนือเป็นเจ้าหน้าที่แผนกอัยการ ส่วนกรมพลำภังนั้นให้เป็นเจ้าหน้าที่แผนกปกครองท้องที่ คงเรียกว่า กรมกลาง กรมฝ่ายเหนือ และกรมพลำภัง ตามทำเนียบตาม กระทรวงมหาดไทยจัดเป็น ๓ กรมเช่นนั้นมาตลอดสมัยเมื่อข้าพเจ้าเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

ยังมีกรมขึ้นของกระทรวงมหาดไทยอยู่ตามทำเนียบเดิมอีก ๒ กรม เรียกว่า กรมตำรวจภูธร เจ้ากรมเป็นหลวงวาสุเทพ กรม ๑ เรียกว่า กรมตำรวจภูบาล เจ้ากรมเป็นหลวงพิษณุเทพ กรม ๑ แต่โบราณ ๒ กรมนี้จะมีหน้าที่ทำราชการอย่างใดก็ไม่มีใครรู้ เมื่อข้าพเจ้าไปอยู่กระทรวงมหาดไทย เป็นแต่คุมเลก ไพร่หลวง เจ้ากรม ปลัดกรม ก็รับราชการเหมือนกับขุนนางกระทรวงมหาดไทยพวกรับเบี้ยหวัด เช่น ให้เป็นข้าหลวงไปทำการชั่วครั้งชั่วคราว แต่พิจารณาเค้าหน้าที่เดิมมีอยู่ ด้วยชื่อว่า ตำรวจ นั้นหมายความว่า เป็นพนักงานตรวจ อีกประการ ๑ ชื่อปลัดกรมทั้ง ๒ นั้นมีสัมผัสคล้องกันว่า ขุนเพชรอินทรา ขุนมหาวิชัย ขุนพิษณุแสน ขุนแผนสะท้าน ในเรื่องเสภาที่ว่า พลายแก้วได้เป็นที่ขุนแผนสะท้าน ก็คือ เป็นปลัดกรมตำรวจภูบาลนั้นเอง ปรากฏว่า มีหน้าที่ตรวจตระเวนด่านทาง ๆ เมืองกาญจนบุรี

ความยุติต้องกันจึงเห็นว่า ๒ กรมนั้นหน้าที่เดิมน่าจะเป็นพนักงานตรวจด่านทางปลายแดน ซึ่งภายหลังเมื่อมีมอญอพยพเข้ามาสามิภักดิ์อยู่ในเมืองไทยมาก ให้พวกมอญเป็นพนักงานตรวจตระเวนทางต่อแดนเข้าไปได้จนถึงในเมืองพม่า จึงโอนการตรวจตระเวนชายแดน