หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/206

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐๖
 

อ้ายนั่นโผจากเรือผมไปคล้ายบินได้อย่างนก ผมสับเอาเรือผมเองเบ้อไปเลย ผมเสียวไปทั้งตัว รู้สึกว่า หัวโตเท่ากระบุง จะร้องให้ใครช่วยก็ไม่มี สองข้างคลองเขานอนกันหมด บ้านห่าง ๆ กันมีแต่ป่ากับทุ่งโล่ง ผมจ้ำไม่คิดชีวิตเลยครับ นั่งพายอยู่ทางหัวเรือง วิ่งอู้เลย"

"โอย แย่! แล้วทำอย่างไร?" ชายหนุ่มถาม

"ผมเข้าคูบ้าน แล้วเอะอะเรียกคนบนบ้าน พอเขาตื่นมา ผมค่อยใจชื้น บังเอิญที่บ้านผมเขาไม่ค่อยนอนกันในบ้าน นอนกันตามชานเรือนบ้าง ตามโรงข้าวบ้าง ผมเล่าให้เขาฟัง ปากคอสั่น โอย โดนอย่างนี้แย่เลย"

"แล้วเรื่องปลาล่ะ อยู่บ้างไหม?" คุณลมัยถาม

"ก็อยู่บ้างครับ" แกตอบและโคลงหัว "เคราะห์ร้ายครับ พอรุ่งเช้า ผมเอาไปให้บ้านที่เขาว่าไว้ และเล่าเรื่องโดนผีหลอกให้เขาฟัง เขาเลยไม่ซื้อปลาผมครับ"

"อ้าว! ทำไม?" ชายหนุ่มถามเกือบพร้อม ๆ กัน

"เขาว่า ปลาเหลือจากผีกินแล้ว เขาก็ไม่เอา เวรกรรมจริงครับ ผมหมดกำลังใจ เลยกลับไปบอกพวกบ้านให้เขาพายไปขายที่ตลาด จึงได้เงินมา"

พวกในเรือยนต์ถอนใจกันเสียงเฮือกไปหมด

"ชีวิตของคนหาปลาคนเดียวกลางดึกก็น่าเห็นใจอย่างที่เล่ษ" คุณลมัยพูดแล้วหันหน้ามองกุ้งปลา "กุ้งฉันเหมาหมด แต่ปลานั่นขอปลาช่อนและปลาเนื้ออ่อน นอกนั้นลุงไปขายต่อเถิด"

เมื่อมีการนับตัวปลา และตกลงราคา จ่ายเงินจ่ายทองกันแล้ว ก็ต่างผละจากกัน

"วันหลังพบกันอีกนะลุง" ชายหนุ่มว่า แล้วก็สั่งคนเรือให้เดินเครื่องเพื่อจะเดินทางเที่ยวกันรอนแรมต่อไปอีกข้างหน้า