หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/150

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๐
 

แขนจะตะครุบเรา นัยน์ตามีแสงแดงจ้า ใครล่ะ ใครจะเอา" นายเด๊ะพูดแล้วสั่นหัว

"โอ้โฮ! เอากันยังงั้นเชียวหรือ" ผมครางออกมาแล้วมองหน้าเขา

"พระอัลเลาะเป็นพยานครับ มันเป็นยังงั้นจริง ๆ ไม่ได้โป้ปดเลย" นายมุตพูดส่งเสริม "พอผมสองคนโผล่ขึ้นน้ำมาเกาะเรือทุ่นของเรา ก็หารือกัน ถ้าบอกนายจ้างว่าพบ ก็จะต้องลงไปอีก ใครล่ะครับจะกล้าเข้าไปเอาเชือกหรือเอาลวดสลิงผูก ไม่ผูกมันก็กว้านขึ้นไม่ได้ ผมกลัวจริง ๆ ครับ เลยหารือกันว่า ต้องโกหกว่า หาไม่พบ ให้ตายซิ เป็นประดาน้ำมานานปี ตะเข้ตะโขงไม่กลัวทั้งนั้น แต่นี่ไม่ไหว มันหนาวเหมือนจะเป็นไข้ ปรื๊อ พูดแล้วขนพอง ถึงจะได้ราคาดีอย่างไรก็ไม่ขอรับประทานแล้ว" พูดแล้วดื่มแล้ว

ผมฟังเขาเล่า รู้สึกตื่นเต้นไปกับเขา และเห็นใจเขาจริง ๆ มันไม่ใช่บนบก จะได้มองเห็นคนโน้นคนนี้บ้าง นี่มันใต้น้ำ ก็ดูเปลี่ยวเปล่าอยู่ ภาพปั้นตัวนี้ไม่ใช่ธรรมดา เราก็รู้เรื่องร้ายของเขาอยู่ ถ้าเป็นรูปปั้นธรรมดาดี ๆ อย่างเขาอื่น จะต้องเสด็จไปอยู่ในน้ำทำไมกัน ก็เพราะวุ่นวายนัก จึงต้องไปอยู่ใต้น้ำ แม่โว้ย ตกลงไปยังไปยืนอยู่เสียอีกด้วย ซ้ำโตเท่าคน ก็เลยมองเป็นคนเลย

ขณะนั้น เจ้าของร้านได้นำกุ้งเผาตัวงาม ๆ ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นคำ ๆ โรยพริกขึ้หนูมา และมีมะนาววางมาข้าง ๆ จาน มีใบสะระแหน่ใส่จานพิเศษมาด้วย ช่างถูกใจผมนัก เจ้ากุ้งนี้ ถ้าพล่ายำมาทีเดียว ไม่อร่อยเท่าอย่างนี้ บางทีชักจะปร่าปาก สู้จิ้มกุ้งและกระเทียมใส่ปาก แล้วเอาใบสะระแหน่ตามหลัง มันช่างอร่อยเหาะเลย จะเปรี้ยวจะเค็มเติมเอาเอง มันถึงใจ พอกินกุ้งเผาเข้าไป ก็เลยคุยกันถึงเรื่องกุ้งเรื่องปลาใหม่ ๆ สด ๆ นายมั่นก็พูดขึ้นว่า ถ้าจะกินกันให้ดี ต้องไปบ้านเพื่อนเขาที่คลองรังสิต จะตกเบ็ดเองหรือจะซื้อจากเรือแหมากมายหลายปลา สดจริง ๆ กำลังนี้ก็น้ำเริ่มลดแล้ว กำลังเกร่อทีเดียว ปิ้งเองทอดเอง เอายังไงได้ทั้งนั้น