หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/152

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๒
 

คงปล่อยเก้าอี้ว่างไว้เฉย ๆ เป็นเกียรติ ดีกว่าขึ้นไปนอนแล้วพลิกตกลงมา อายเขาตายถ้าใครรู้

คืนหนึ่ง ดูจะค่อนรุ่งแล้ว ผมรู้สึกตัวตื่น ก็เหลียวไปดูที่เก้าอี้นวม เพราะรู้สึกคล้าย ๆ ว่า มีใครมานอน ผมเห็นคนนอนจริง ๆ จึงผงกหัวดู เพราะอยากรู้ว่า ใครนอนกันแน่ รู้จักกันหรือเปล่า แต่ต้องสะดุ้ง เพราะผู้ที่นอนอยู่เป็นหญิงแท้ ๆ ผมชักงงงัน เอ๊ะ ผู้หญิงที่ไหนมานอนเรี่ยราดอยู่กับชายที่ไม่รู้จักกัน ผมลุกขึ้นนั่งจุดบุหรี่สูบคนเดียวในยามดึก หญิงคนนั้นนอนหลับอย่างสบาย ผมสูบบุหรี่แล้วก็นอนหลับต่ออีก แต่คราวนี้ นอนห่างออกมา นอนเบียดเข้าไปทางนายมั่น จะนอนชิดเก้าอี้อย่างเดิม ใครมาเห็นเข้าจะน่าเกลียดและเอาไปเล่าลือ

ตื่นเช้าขึ้น หญิงนั้นตื่นก่อนผม ผมเลยไม่เห็นหน้าว่า ใครเป็นใคร ผมนิ่งอั้นไม่ได้บอกใคร ทั้งก็ไม่ได้ถามใครด้วยว่า เมื่อคืนหญิงใดมานอนข้างผม เพราะบ้านของเขาตรงไหนว่างพอมีที่ เขาอาจจะมานอนได้ตามใจเขา หากแต่จะน่าเกลียดอยู่ก็ตรงมานอนกับคนที่ไม่รู้จักกันเท่านั้น และในคืนต่อมา ก็เป็นไปดังนั้นอีก ผมชักใจไม่สบาย นอนไม่ค่อยหลับ ผมแกล้งนอนตะแคงหันหลังให้แก่ กันข้อน่ารังเกียจไว้ก่อน แต่ครั้นดึกเข้าอีก ผมตื่นขึ้น ก็ไม่เห็นหญิงนั้นที่เก้าอี้ ผมมองหาก็พบว่า แม่คนนั้นไปยืนอยู่ที่นอกชาน ตากลมอยู่กลางดึก ผมเลยนอนเฉยหลับตานิ่ง ในครู่นั้น ก็รู้สึกว่า แกกลับมานอนอีกดังเดิม ผมนอนนิ่ง ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับได้ยินแกพูดกับผมเบา ๆ

"คืนพรุ่งนี้ ฉันคงลำบากแน่ ๆ จะมีพวกมาจากบ้านไกลมานอนด้วย ไม่รู้จะนอนที่ไหน" ผมนอนตัวแข็งด้วยละอายใจ แม่คนนี้แกพูดคล้าย ๆ จะขอความเห็นใจจากผม การที่ผมมานอนที่นี่ ก็เท่ากับมาเปลืองที่นอนของพวกแก เหมือนแกจะขอควาเมห็นใจหรือให้ผมช่วยเหลือแก ถ้าผมรู้เรื่องแต่แรก ผมก็ชวนนายมั่นออกไปนอนตากน้ำค้างกันที่นอกชานเสียแล้ว ชักกลุ้มใจ เพราะเห็นแกผุดลุกผุดนั่งอย่างไม่มีสุข ถ้าแกคงเมื่อยอย่างพวกเรานั่นเอง ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มันดึกเสียแล้ว จะย้ายไปไหนก็ยาก