หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/196

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๖
 

"ศพอะไร! ทำแปลก ๆ" วิชัยโมโห ตะโกนออกไป แม่คนนั้นคล้ายแกจะขบขันตัวเองหรือขบขันเสียงตะโกนของวิชัย แกหัวเราะลั่น หัวเราะไป ก้มหน้าก้มตาฉุดไป พอแกลากพ้นไปพอมีทางเราจะผ่านได้ แกจึงเงยหน้าขึ้นหัวเราะกับเรา ผมแทบช็อกคารถ แม่คนลากเลื่อนตอนแรกแกก็สาว ๆ นี่เอง แต่บัดนี้ ที่ตาเราเห็น แกก็คือซากศพเหมือนกัน อ้าปากมีฟันในปากอย่างกะพร่องกะแพร่ง หัวเราะก้องถนน วิชัยใจแกร่งแท้ ๆ เขากระชากรถออกวิ่งแทบเป็นกระโจน เพราะเครื่องเปิดเบา ๆ ไว้ตลอดเวลา ยายศพตายซากหัวเราะส่งท้ายเรา ซ้ำร้ายกว่านั้น ศพที่นอนอยู่ในเลื่อนกลับลุกขึ้นนั่งหัวเราะผสมไปด้วย ผมไม่เคยกลัวอะไรถึงขนาดนี้เลย ถึงกับร้องออกมาอย่างไม่เป็นเสียงคน วิชัยเหยียบน้ำมันจนลมปัดหูดังอู้ เราจะหนีปีศาจมาไกลแค่นไหนไม่คำนึงถึง วิชัยเป็นคนแกร่งที่ควรบูชา สติไม่เสียในการขับรถ รถพุ่งโชนไปตามถนนราวกับเรือบิน เราผ่านกำแพงแสนไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่นึกว่าจะเป็นไปได้ ในทันใดนั้นเอง เราทั้งสองก็ต้องสะดุ้งโหยงไปอีก ข้างหน้าเรามีรถเก๋งจอดขวางทาง และมีคนหลายคนกำลังชุลมุนเข้าประคองกันอยู่พัลวัน เราต้องเบาเครื่องลง และคนหลายคนนั้นยกมือขอให้เราหยุด เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ต่างพูดเสียงแปร่งตามแบบสุพรรณ ได้ความว่า รถคันนั้นถูกปล้น ชาวบ้านได้ออกมาช่วย คนที่ถูกปล้นรอดตายได้สองคน เป็นหญิง ส่วนชายอีกสองคนตายคารถเพราะฮึดสู้ พวกปล้นเก็บเงินทองและเครื่องแต่งตัวไปได้พอควร พวกชาวบ้านขอร้องให้นำผู้หญิงเข้าแจ้งตำรวจนครปฐม ส่วนคนตายในรถนั้นแตะต้องไม่ได้ ต้องรอคอยตำรวจ

เรากำลังวิ่งหนีปีศาจมาหยก ๆ มาโดยเหตุการณ์เข้าอีกอย่างนี้ ถึงกับใจเต้นดังตีกลอง เตรียมนำผู้หญิงสองคนที่เอาแต่ร้องไห้ไม่เป็นส่ำบึ่งเข้านครปฐม นายวิชัยคงทำความเร็วได้ดีตามเคย ผมถามหญิงสองคนนั้นว่า ถูกปล้นอย่างไร แกร้องไห้ไปเล่าให้ฟังไปว่า แกมีธุระด่วนรีบมาุสพรรณกับสามีและหลานชาย ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เห็นมีรถแท็กซี่วิ่งตามหลังมาหนึ่งคันก็อุ่นใจดีในยามค่ำคืน แต่พอถึงตำบลที่เกิดเหตุ รถแท็กซี่ที่