หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/203

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐๓
 

ครับ ถึงสามคราว กู้เปล่า ๆ ผมเดือดใจนัก หาปลามาตั้งแต่เด็กจนหนุ่ม ไม่เคยแพ้ปลาเลย"

"ถ้าจะโดนหลอกเข้าแล้ว ผีมันเขย่า" คุณลมัยว่า

"ไม่รู้ซีครับ ตอนนั้น ผมไม่สงสัยอะไรเลย โทษว่า ตัวเองช้าไป เกราะดังแล้วพายเรือเข้ากู้ช้าไป ปลาเลยหลุดหมด ผมด่าโชคของตัวเอง แต่ก็ททำการไปจนเกือบสามุ่ม เอ! ทีนี้ซิ ปลาติดแยะเชียวครับ ปลาเค้าโต ๆ ปลาเนื้ออ่อนใหญ่ ๆ ปลากดอีก ผมเวียนกู้เบ็ดเกี่ยวเหยื่ออย่างอ่อนใจ พอสี่ทุ่ม ก็ได้ปลาราว ๆ ร้อยกว่าตัวแล้วครับ พอส่งลูกค้าเขาแน่ละ แต่ในตอนหนึ่งที่กำลังเกี่ยวเหยื่ออยู่ ผมได้ยินเสียงแว่วจากท้องเรือที่ใส่ปลาไว้มันดังกรวบ ๆ คล้ายอะไรมันขบเคี้ยวอะไร ผมหันไปดู ก็เห็นแต่ปลามันดิ้นอยู่ตามระเบียบของมัน"

"เสียงอะไร?" ชายคนหนึ่งถาม

"ไม่รู้ซีครับ" แกว่า "มันดังหลายหนครับ ผมเหลียวไปก็ไม่มีอะไร ผมพายเรือมาจอดริมตลิ่ง มันก็คงดังอีก กรวบ ๆ กรวบ ๆ ผมจึงหยิบตะเกียงส่องดู เอ๊ะ! ปลาตัวเล็ก ๆ หายไปตั้งหลายตัว มันมีปลาเค้าใหญ่อยู่ตัวหนึ่งมันดิ้นกระดิกตัวนิด ๆ และปากมันขยับ ๆ อยู่ ท้องมันกางเชียวครับ"

"ยังไงกัน อ้ายปลาเค้าจะกินปลาตัวเล็กหรือ?" คุณลมัยถาม ตาโพลง

"ไม่รู้ซีครับ ไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่เกิดมา ปลามัน ถ้าจะกินกัน ก็ต้องอยู่ในน้ำ ถึงจะกินกัน มันจะกินกันบกบกได้อย่างไร แต่เอ๊ะ! แล้วปลาเนื้ออ่อนตัวย่อม ๆ หายไปหลายตัว หรือว่า มันกระเสือกระสนเข้าไปอยู่เสียใต้กระดาน พอนึกอย่างนี้แล้ว ก็หายข้องใจ และทั้งว่า อ้ายปลาเค้ามันนอนเฉย ๆ เป็นแต่ขยับเหงือกของมันหยุบหยับอย่างปลาธรรมดาที่ขึ้นบก ก็ระบายอากาศตามเรื่องของมัน ผมจึงวางตะเกียงไว้ พอเสียงเกราะดังอีก ผมก็ออกเรือไปกู้เบ็ดอีกตามเคย คราวนี้ มันดังกรวบ ๆ อีก ผมรีบส่องไฟดู โอ! คุณครับ คราวนี้ เห็นกับตาเลย" แกพูดแค่นี้ ทำตาพอง "อ้ายเค้ามันกำลัง