หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/204

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐๔
 

คาบปลาเนื้ออ่อนคาปากอยู่เลย แหม ผมโมโหจัง หยิบพายตีเสีย นอนเงียบไปเลย โอ้โฮ มันร้ายจริงครับ ขึ้นอยู่บนบกแล้วก็ยังกินกันอีก" แกพูดอย่างน่าขัน แต่ไม่มีใครหัวเราะอย่างแรก ๆ

"แล้วไงอีกลุง" ชายหนุ่มถาม

"พอผมเห็นมันตาย ผมก็ถอนใจ ผมก็ทำงานของผม คราวนี้ ได้อ้ายช่อนบ้าง ปลาแมลงภู่บ้าง ปลากรายบ้าง ผมหายเสียดายปลาเนื้ออ่อน ทำการเกี่ยวเหยื่ออีกตามเคย เกี่ยวแล้วถอยเรือเลื่อนไปอีกทุ่นหนึ่ง ผมลงทุ่นลอยติดเกราะไว้ถึงห้าทุ่ม ขณะที่ผมยกพายจุ่มน้ำแรงไปหน่อย เจ้าปลาเค้าตัวใหญ่ตัวหนึ่งตกใจพุ่งขึ้นจากน้ำข้ามหัวผม แล้วตัวมันก็ตกลงก้นท้องเรือรวมกับปลาอื่น ๆ ผมส่องไฟดู โอ้โฮ มันใหญ่เอาการ แต่ชาวบ้านนี้เขาถือว่า ปลาตกใจ อย่าเอามันเลย ควรปล่อยไปเสียดีกว่า ผมเลยตกลงใจจับมันปล่อยน้ำไป"

"แล้วกัน!" คุณลมัยร้องเบา ๆ "ทำไมถืออะไรกัน โดดขึ้นมาก็เป็นลาภของเรา"

"ชาวบ้านนี้เขาลือกันว่า มันจะทำให้ลาภเสีย" แกว่า

"พิลึก" คุณลมัยบ่น "เป็นฉัน ฉันไม่ยอม ปลาก็ได้เยอะแล้ว จะกลัวหมดลาภอะไรอีก"

"ผมก็นึกอย่างคุณแหละครับ แต่ยังไงรีบปล่อยไปก็ไม่ทราบ" แกหัวเราะ "แต่ว่า เอาอีกแล้วซิคุณ เสียงกรวบ ๆ ดังอีก ผมรีบจับตะเกียงและเปิดกระดานเรือบางตอนดู เผื่อว่า จะมีปลาเค้าตัวโตอื่น ๆ มากินปลาอีก แต่ก็ไม่มีอะไร" แกยกกาแฟดื่มรวดเดียวหมดแก้วแล้วพูดต่อ

"ผมชักรำคาญใจ เห็นว่า ได้พอแล้ว ก็เก็บเบ็ด เอาทุ่มขึ้น รวบเบ็ด เก็บปลาที่ติดเบ็ดก็ปลดลงท้องเรือไป พอเก็บอะไรหมดแล้ว ผมก็ปล่อยให้เรือลอย มวนบุหรี่ตองแห้งสูบให้สบายใจ อ้อ! ผมลืมบอกไปว่า ตามธรรมเนียการหาปลา เราทำการกู้เบ็ดปลดเบ็ด เราจะต้องนั่งพายอยู่ตอนหัวเรือ ใช้พายของเราที่ชำนาญคัดวาดคล้าย ๆ มีคนถือท้ายอีกคนหนึ่ง ถ้าเรา