หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/30

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
37
 

อ้ายพุกก็มา"

"แหมพี่พุกนะ ตั้งแต่ออกทหารมา ไม่เคยพบหน้ากันเลย" พี่ถนอมว่า

"เที่ยวเยี่ยมเพื่อนซิ นี่ก็ไปบ้านอ้ายพัก เดี๋ยวก็คงกลับ" ยายว่า

ตาแต่งตัวไม่ยาก สวมเสื้อตัวเดียวก็ไปได้ ผมก็เช่นกัน ไม่กี่อึดใจก็ไปกันได้ ผมกับตาลงเรือมาดเล็กพายไปสองคน พี่ถนอมกับหญิงคนนั้นก็พายสาปั้นตามมาข้างหลัง สักครู่ใหญ่ก็มาถึงบ้านลุงโป๊ะกับป้าจีบ พอเรือเทียบตลิ่งจมูกก็ได้กลิ่นธูปหอมตลบไปหมดเลย

"ทำอะไรกันวะ จุดธูปหอมฟุ้งเชียวนี่?" ตาถามที่ถนอม

"น่ารำคาญจัง ชาวบ้านใกล้ ๆ ที่เขาว่า เจ้าเข้าทรงแน่ เลยมาจุดธูปเทียนบูชากัน" พี่ถนอมว่า

"เอ๊ะ จะเอากันว่า ผีเข้าหรือเจ้าทรงกันแน่ล่ะงั้น" ตาว่า

"ก็ไม่รู้กันน่ะซี จึงให้ตามาดูทีเถอะ ตาจ๋า เราขึ้นหลังเรือนกันเถอะ ข้างหน้านี้พวกที่เชื่อกันว่าเจ้าเข้ามานั่งบูชากันอยู่เยอะแยะ" พี่ถนอมว่าแล้วจูงมือตาไปขึ้นหลังเรือนวกอ้อมไปทางกุฎีเล็ก ๆ ท้ายครัวซึ่งเป็นที่ผูกเจ้าเด็กจ้อยหลานชายที่เป็นบ้าไว้ มันบ้ามานานแล้ว ทั้งก็พิการด้วย ขาลีบอีกด้วย รักษาแก้กันไม่ตก มันเห็นเราสี่คนเดินผ่านไป อ้ายน้อยก็ร้องเอะอะโบกไม้โบกมือไปตามฤทธิ์ของมัน ซึ่งใคร ๆ ในย่านนั้นก็รู้กันทั่วไป พอขึ้นชานท้ายครัว ก็พบลุงโป๊ะ จึงเลยแอบนั่งคุยกันที่นั่น

"ฉันกลุ้มใจจริงน้าแม้น เวรกรรมอันใดมาเป็นยังงี้" ลุงโป๊ะกล่าวขึ้นต้น

"มันอะไรกันแน่ล่ะ?" ตาถาม

"ไม่รู้น่ะซี ชาวบ้านเขาว่าเจ้า แต่ฉันสงสัยว่าผี ดูไม่ออก ชาวบ้านมาบูชากันตลอดวันตลอดคืน ขอพรขอความคุ้มครองอะไรกัน เลยไม่ได้หลับนอน ข้าวปลาไม่ยอมกิน ถือตัวว่าเป็นเจ้า ไม่ยอมกินอะไร จะดมแต่ดอกไม้ พวกนั้นก็เอาดอกไม้ธูปเทียนมาบูชากัน ข้าวปลาไม่มีในท้องเลย ลมจะใส่เอาน่ะซี ลุงโป๊ะบ่นอู้เลย