หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/55

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๒
 

"อ้ายพูดน่ะ มันก็พูดยังงั้น ข้าสงสัยว่ะ ที่ว่ามันจะเรียกเอาไปน่ะ คงจะไม่เอาไป อ้ายทิดหิงคงมาทำพิธีเพียงสะกดอ้ายกล้าให้สงบเท่านั้น มันอาจเกิดกลัวเกรงแก่อีกฝ่ายว่า ถ้าอ้ายกล้าขึ้นอาละวาด ก็จะรู้กันว่า ใครทำร้ายมันถึงตาย จึงคิดให้อ้ายทิดหิงมาสะกดเสีย เพื่อเรื่องจะได้เงียบ อ้ายทิดหิงจะเอาผีตายโหงไปสุมกระบาลมันทำไมในสมัยนี้" ตาว่าแล้วมวนบุหรี่สูบ พวกเราฟังเหตุผลของตาก็ดูจะเข้าท่า อาจจะเป็นจริงตามนั้นก็ได้ จริงทีเดียว ใครทำอะไรร้าย ๆ ไว้ ก็ย่อมต้องการให้เรื่องเงียบ ถ้ามีการเซ่นผีกัน เรื่องมันอาจแดงขึ้น อ้ายเรื่องกลัวทางฆ่ากันน่ะ ฝ่ายเจ้าที่แอบทำร้ายหากลัวทางทิดกล้าไม่ แต่กลัวอาญาบ้านเมืองมากกว่า ถ้าเงียบเหมือนความมืด เรื่องมันก็จางหายไป

แต่จะอย่างไรก็ตาม ทางบ้านเรา พอตกเวลาโพล้เพล้ ก็ขึ้นบ้านหมด และปิดประตูหน้าต่างเงียบไปทั้งบ้าน คืนนี้คุยกันบ้างนิดหน่อย ความเงียบมันช่างปกคลุมหมู่บ้านเราจริง ๆ จิ้งหรีดเท่านั้นที่ยังมีเสียงอยู่ตามพื้นนา นอกนั้นไม่มีเสียงอะไร เสียงหมูเสียงหมาพลอยเงียบไปด้วยอย่างประหลาด ตาหิงเป็นผู้มีความศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่แกพูด พอเราจะเข้านอน ก็ได้ยินเสียงพระมากองค์สวดมนต์บทไล่ผีดังลอยมา ดูจะเป็นพระทั้งวัดก็ไม่รู้ เสียงดังเหลือเกิน

"พระท่านลงมือร่วมกับอ้ายทิดหิงแน่ ๆ" ตาพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังนั้น

ผมนอนฟังเหตุการณ์ไปจนดึก เสียงพระได้เงียบไปแล้ว รู้สึกว่า สงบจริง ๆ หมาไม่หอน นกแสกไม่ร้อง สงบอย่างน่าชื่นใจ ผมรู้สึกสบายและหลับไปเมื่อไรไม่รู้ แต่พอเช้าขึ้นเท่านั้น ท่านผู้อ่านที่เคารพ เหตุการณ์มันได้เกิดขึ้นอีกราวกับฟ้าผ่าลงมาอย่างกัมปนาท มีเสียงคนโจษกันว่า มีคนตายอยู่บนศาลาป่าช้า ตาผมแลลุงโนดอยู่ไม่ได้ รีบเผ่นไปวัด

ตอนสายหน่อย ลุงโนดกลับมาคนเดียว ร้องบอกพวกเราว่า ตาหิงนอนตายอยู่บนศาลา มีรอยบาดแผลถูกของแข็งและหนักตีตามตัวน่วมไปหมด หน้าตาเละเทะเพราะโดนตี