หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/87

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๔
 

เงียบน่ากลัว กลางวันแสก ๆ ยังหาคนเดินน้อยแทบนับคนได้ ไม่คึกคักอย่างเดี๋ยวนี้หรอก ที่หลังวัดเทพฯ ที่แหละ ฉันกับเพื่อนนักเลงด้วยกันนะคุณ ไปนั่งหวยกัน จุดไต้ไว้ห่าง ๆ แล้วต่างคนต่างนั่งจุดเทียนกัน ว่าคาถาขลังตามแบบคาถาหวย ไม่ใช่ไหว้พระไหว้เจ้าอะไรหรอก อีกคืนหนึ่งนะ ที่ตรงนั้นมันรกเรื้อ และเราก็ไม่มีเสื่อมีสาดอะไรไปปู เราก็นั่งพนมมือนั่งยองกันนั่นแหละ โอย! คุณเอ๋ย ฉันถูกผีมันล้อ เอามือล้วงก้นเอง ชั้นแรกฉันคิดว่า งูมันชูหัวมาโดนก้นฉัน ฉันโดดจนตัวลอย เทียนดับเลย แต่ไต้ยังมีอยู่ จึงส่องพอจะเห็น เอ๊ะ! งูก็ไม่มี ถ้ามีก็เห็นซิคุณ จริงอยู่ ฉันว่า ที่ตรงนั้นรกเรื้อจริง ๆ แต่มันก็เป็นที่รกห่างตัวเรามาก ตรงที่เรานั่งกันนั้น เราเอาไม้ปาด ๆ กันพอเตียนที่จะนั่งยอง ๆ ได้ และอ้ายการถูกล้วงก้นนี่น่ะ ไม่ใช่ถูกแต่ฉันหรอก เพื่อนสามคนก็ถูกด้วยกัน เราจึงรู้ว่า เราถูกผีรบกวนเสียแล้ว เลยเลิกนั่ง เก็บกระดาษ เก็บถ้วยปูน กับขมิ้นที่ละลายน้ำไว้ให้ผีเขียนตัวหนังสือกลับ" เฒ่ามิ่งหยุดดื่มสุรา

"มันทำเท่านั้นเอง?" หนุ่มคนเก่าถามขึ้น

"เท่านั้นแหละ! ไม่รบกวนอะไรมาก แต่เราก็ใจไม่ดี ถือว่า เสียสมาธิ เลยกลับกัน แต่อีกวันซิ!"

เฒ่ามิ่งชูมือประกอบคำพูด

"ฉันไปนั่งกันที่วัดสระเกศ หน้าวัดนั่นแหละครับ สมัยนั้น เรื่องวัดสระเกศละก็ มันแทบจะเป็นป่าช้าไปทั้งนั้น ศพน่ะรึ ทั้งฝังทั้งทิ้งให้แร้งกากิน เช่น ศพนักโทษยังงี้ เชือดเนื้อให้แร้งกากิน ที่เหลือก็ฝังไป โอย! ยิ่งทางเมรุปูน คืน ที่ทางด้านถนนสายประตูผีนั่นแหละคุณ แดนเชือดศพเชียวละ สมัยนั้นยังไม่มีถนนนี่คุณ เป็นป่าช้าเราดี ๆ นั่นเอง สมัยที่เขาขุดทางทำถนน หัวกะโหลกออกเกลื่อนกลาดไป วันที่เราไปนั่งกันน่ะคุณ เราทำพิธีว่าคาถากันแล้ว เราก็จุดเทียนปักไว้ วางกระดาษและถ้วยขมิ้นกับปูน วางไว้แล้วเราก็หลบแอบบังต้นโพธิ์คอยอยู่" เฒ่ามิ่งหยุดพูด แล้วกระดิกนิ้วเรียกเจ๊กให้ตักเหล้าโรงอีกแก้ว