เปนอันมาก ฝ่ายพม่าไปเกลี้ยกล่อม ชาวค่ายบ้านระจันแต่งกันลงมาค่าพม่าตายเสียกลางทางเปนอันมาก พม่าจึ่งแบ่งกันทุกค่ายยกขึ้นไปจะรบ ชาวค่ายบ้านระจันยกออกตั้งหยู่นอกค่าย ไล่ตะลุมบอนฟันแทงพม่าล้มตายเปนอันมาก ฝ่ายขุนนางบดีผู้ไหย่ผู้น้อยออกไปตีค่ายพม่าที่ออกไปตั้งหยู่วัดป่าฝ้ายปากน้ำประสบ ไห้สานสีสุกแบกไป ถ้าจะทำค่ายที่ได จะเอาสีสุกตั้งเรียงไห้ชิดกันแล้วจะขุดมูลดินไปบังเปนค่าย จึ่งไห้คนยกไปวันนั้นมากเต็มทุ่ง เสนาบดีไห้หยุดคนที่ได้ยกไห้พร้อมมูลกันเปนหมวดกอง ก็รั้งรอไป ครั้นเห็นพม่าวัดป่าฝ้ายขึ้นม้าข้ามน้ำไปหาค่ายไหย่ฟากตะวันตกเปนหลายม้า จึ่งปันคนเข้าตี พม่าไนค่ายจึ่งยิงปืนออกมาถูกคนล้มลงห้าคนหกคน ๆ ทั้งนั้นก็ถอยมาสิ้น ครั้นเพลาเย็น ก็เลิกทัพกลับมา ประมาน 2–3 วัน พม่ายกไปตีค่ายบ้านระจัน ทำการกวดขึ้นกว่าเก่า เร่งชาวค่ายบ้านระจันไห้เข้ามาขอปืนไหย่สองกะบอก ปรึกสากราบทูนว่า ถ้าค่ายบ้านระจันเสียแก่พม่า ๆ จะเอาปืนเข้ามารบกรุง จะไห้ไปนั้นมิบังควน ครั้นรุ่งขึ้น พม่ายกไปตั้งค่ายนะบ้านขุนโลกข์ นายจันเขี้ยวคุมพัคพวกออกมาตีพม่า ค่าพม่า
หน้า:เรื่องของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี - ๒๔๘๗.pdf/47
หน้าตา