หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/17

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕

ว่า ที่จะจับหญิงมีครรภ์มาฆ่าเสียให้สิ้นนั้นก็จะเปนกรรมเวรไป แต่อาการที่ผู้มีบุญมาบังเกิดในครรภ์หญิงนั้นเปนคนเขนใจเที่ยวเกบฟืน ถ้าเกบฟืนได้ เอามัดฟืนขึ้นทูลบนศีศะเดินมา เมื่อจะอยุดภักนั้น ก็เอามัดฟืนวางไว้แล้วเอาผ้าที่รองบนศีศะนั้นวางบนมัดฟืนรองนั่ง เหตุว่าบุตรที่ในครรภ์นั้นแลเปนผู้มีบุญ ถ้าเหนดังนั้นแล้ว จึ่งฆ่าหญิงเขนใจที่มีครรภ์คนนั้นเสียเทิญ พระมหากระษัตรได้ทรงฟังโหรกราบทูลดังนั้น จึ่งให้อำมาตย์ไปเที่ยวสอดแนมดู ครั้งนั้น หญิงเขนใจพวกหนึ่งทูลมัดฟืนมา แต่หญิงหกคนนั้นปลงมัดฟืนลงจากศีศะแล้วก็ภากันไปเที่ยวนั่งตามร่มไม้ แต่หญิงเขนใจมีครรภ์คนหนึ่งนั้นปลงมัดฟืนแล้วเอาผ้าลาศบนมัดฟืนรองนั่ง พวกอำมาตย์เหนดังนั้นแล้วจึ่งจับหญิงนั้นไปถวายพระมหากระษัตร ๆ จึ่งตรัสสั่งให้เพชรฆาฏเอาไปฆ่าเสียที่ดอนแห่งหนึ่งใกล้วัดพระมหาสังฆราช บัดนี้เรียกว่า ดอนพระศรี ส่วนกุมารอยู่ในครรภ์นั้นก็ประสูตรออกมา มีแร้งมากางปีกปิดป้องรักษากุมารนั้นไว้จะไม่ให้ถูกแดดแลลม ส่วนตาเคเห ซึ่งเปนผู้เลี้ยงโคของพระมหาสังฆราชนั้น ไล่ฝูงโคไปเลี้ยงที่ใกล้ศพมารดากุมารนั้น เหนฝูงแร้งภากันกางปีกป้องปิดอยู่ ก็มีความสงไสย จึ่งเข้าไปดู เหนกุมารมีรูปอันงาม ก็อุ้มเอามาถวายแก่พระสังฆราช ๆ ก็รู้ว่า กุมารคนนี้จะมีบุญมาก แต่พระมหากระษัตรให้เอามาฆ่าแล้วยังไม่ตาย จึ่งมอบให้ตาเคเหเอาไปเลี้ยงไว้จนอายุกุมารนั้นได้หกขวบเจ็ดขวบ ครั้นอยู่มา พระมหากระษัตรก็ทรงพระประชวรอีก จึ่งให้โหรทำนาย ๆ ว่า ผู้มีบุญนั้นยังไม่ตาย มีผู้เอาไปเลี้ยงไว้