หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/18

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๖

อยู่ข้างทิศตวันออกแห่งเมืองพนมเพ็ญ พระมหากระษัตรจึงให้อำมาตย์ไปจับตัว ส่วนพระมหาสังฆราชกับตาเคเหรู้ความนั้นแล้ว พระมหาสังฆราชจึ่งให้ตาเคเหภากุมารนั้นหนีไป ฝ่ายอำมาตย์ก็ติดตามไป ตาเคเหเหนจวนตัว จึ่งภาพระกุมารเข้าซ่อนอยู่ในบึงแห่งหนึ่ง เดี๋ยวนี้เรียกว่า โคกบันชัน เมื่อจะเข้าไปนั้น ตาเคเหทำเปนทีเดินถอยหลังเข้าไป หวังจะให้คนทั้งปวงเหนว่า หนีออกจากโคกนั้นแล้ว ฝ่ายอำมาตย์ซึ่งติดตามไปถึงโคกนั้นแล้วก็ไม่เหนจึ่งขับช้างเข้าบุกตามหญ้ารกนั้น แต่ที่กุมารอยู่นั้นมีช้างพังช้างหนึ่งไปยืนคร่อมพระกุมารอยู่ทำอาการเหมือนเหยียบย่ำดุจช้างทั้งปวงไม่ให้คนทั้งปวงสงไสย อำมาตย์ราชเสนาเที่ยวหาไม่เหนแล้วก็ภาไพร่พลกลับมาทูลพระมหากระษัตร ฝ่ายตาเคเห ครั้นเหนคนทั้งปวงกลับไปแล้ว จึ่งภาพระกุมารออกจากบึงไปภักอยู่ในป่าแห่งหนึ่งชื่อ ไพรทับ ฝ่ายพระมหากระษัตรให้โหรทำนาย ๆ ว่า บัดนี้ ผู้มีบุญหนีไปอยู่ในป่าแห่งหนึ่งข้างทิศใต้ พระมหากระษัตรสั่งให้เสนาอำมาตย์ยกทับไปติดตาม ตาเคเหเหนจึ่งภากุมารหนีไปภักอยู่ที่ป่าไพรปวน ออกจากป่าไพรปวนไปภักอยู่ที่เขาประสิทธิ์ข้างทิศหรดี เมื่อจะเข้าไปในถ้ำนั้น ตาเคเหอุ้มพระกุมารเดินถอยหลังเข้าไปในถ้ำนั้น แล้วแมลงมุมก็ชักใยปิดปากถ้ำเสีย หวังจะไม่ให้คนสงไสยว่า ตาเคเหภากุมารเข้าไปในถ้ำนั้น ฝ่ายอำมาตย์ก็ภาไพร่พลกลับมาทูลพระมหากระษัตร ๆ ก็นิ่งอยู่ ฝ่ายตาเคเหก็พระกุมารข้ามแม่น้ำพนมเพ็ญ ไปที่ดอนหนึ่งข้างทิศตวันออก กุมารจึ่งหักเอากิ่งไทรปักไว้ จึ่งอธิฐานว่า ถ้าข้าพเจ้าจะมีบุญต่อไปในภายน่า