ก็ฃอให้กิ่งไทรนี้เปนขึ้นจำเริญโตใหญ่ไปในเบื้องน่า ต้นไทรนั้นยังปรากฎอยู่จนทุกวันนี้ ครั้นอธิฐานแล้ว กุมารก็บันทมหลับอยู่บนตักตาเคเหน่อยหนึ่ง ตาเคเหเหนนกกระทุงกินปลาอยู่ในหนองเปนอันมาก ตาเคเหสำคัญว่า กองทัพยกมาตามจับ ตาเคเหจึ่งปลุกกุมารขึ้นบอกว่า กองทัพยกตามมา ก็ภากันหนีไปถึงต้นมะม่วงต้นหนึ่ง ตาเคเหจึ่งขึ้นไปบนต้นมะม่วงสวายสอ แลดูไม่เหนกองทัพ เหนแต่ฝูงนกกระทุงลงกินปลาอยู่ในหนองก็ดีใจ จึ่งเกบผลมะม่วงมาให้แก่กุมาร จึ่งบอกพระกุมารว่า ไม่ใช่กองทัพ กุมารก็คิดแต่ในใจว่า ตาเคเหลวงเราให้ตกใจ ถ้าเรามีบุญได้เปนกระษัตร จะต้องว่ากล่าวสั่งสอนเสียบ้าง แล้วกุมารกินผลมะม่วง ตาเคเหได้รับพระราชทาน มีโอชารศยิ่งนัก ตาเคเหก็เกบเลดมะม่วงสวายสอนั้นมาด้วย ก็ภากันมาถึงที่บ้านตำบลหนึ่ง กุมารอดอาหารหิวโหยนัก ได้เหนหญิงขาวผู้หนึ่งไปยืนอยู่ที่น่าบ้าน กุมารจึ่งว่า ตาไปฃอเข้าหญิงขาวที่ยืนอยู่นั้นมากินสักหน่อยเทิญ ตาเคเหก็ไปฃอเข้าแก่หญิงที่ยืนอยู่นั้น ๆ จึ่งถามว่า ตามาแต่ข้างไหน ตาเคเหจึ่งบอกตามเหตุที่ตนมากับกุมาร หญิงขาวก็ให้ไปรับกุมารเข้ามา แต่งโภชนาการให้กิน แล้วให้กุมารกับตาเคเหอยู่ในบ้านได้ประมาณเจดวัน ฝ่ายพระมหากระษัตรทรงพระประชวรหนักถึงแก่พิราไลย เสนาพฤฒามาตย์ราชประโรหิตก็ประชุมพร้อมกันให้หาโหรทำนายดู ก็รู้ว่า ผู้มีบุญนั้นยังอยู่ จึ่งปฤกษากันเสี่ยงราชรถไป ราชรถก็ตรงไปถึงฝั่งแม่น้ำก็อยุดอยู่ ฝ่ายอำมาตย์ราชประโรหิตซึ่งตามราชรถไปนั้นก็ชวนกันเอาราชรถนั้นข้ามแม่น้ำไปถึง