หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/20

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘

ฝั่งฟากข้างโน้น ราชรถตรงไปถึงที่ใกล้กุมาร เสนาอำมาตย์ราชปะโรหิตเหนพระราชกุมารต้องด้วยลักษณควรจะเปนพระมหากระษัตรครอบครองราชสมบัติบำรุงอาณาประชาราษฎรให้อยู่เยนเปนศุขได้ ก็ให้ประโคมดุริยางคดนตรีย์ขึ้นพร้อมกัน เชิญเสดจกุมารขึ้นทรงราชรถแห่แหนไปสู่ยังพระนครจัตุรมุกข์พนมเพ็ญเปนสมมติกระษัตรทรงพระนาม พระเจ้าปักษีจำกรง เพราะเหตุเมื่อนายเพชรฆาฏฆ่าพระมารดา มีนกแร้งมากางปีกปกปิดเฝ้ารักษาพระองค์ไว้นั้น พระเจ้าปักษีจำกรงจึ่งทรงตั้งตาเคเหนั้นเปนที่เจ้าฟ้าทฬหะ เอกอุมนตรี และบ้านที่พระองค์ไปอาไสยหญิงขาวยืนอยู่นั้น ให้ตั้งขึ้นเปนเมืองเรียกว่า เมืองสีสอฌอ แล้วพระราชทานส่วยสาอากรในเมืองสีสอฌอให้ขึ้นแก่หญิงขาวที่ให้เข้าแก่พระองค์เสวยนั้น ที่นายเพชรฆาฏฆ่าพระมารดานั้น ให้สร้างวัดขึ้นชื่อว่า วัดดอนพระศรี ที่พระองค์ปักต้นไทรไว้นั้น ให้สร้างพระวิหารไว้ ให้ชื่อว่า วัดวิหารสวรรค์ เมื่อตาเคเหได้เปนเจ้าฟ้าทฬะหะนั้น ได้เล็ดผลมะม่วงมาแต่ครั้งภาพระกุมารหนีมานั้น เอามาปลูกไว้ในบ้านจนโตใหญ่ได้เจดปีจนมีผล จึ่งเกบมาถวายพระเจ้าปักษีจำกรง ๆ เสวยมีโอชารศ จึ่งตรัสถามเจ้าฟ้าทฬหะว่า ได้ผลมะม่วงมาแต่ไหน เจ้าฟ้าทฬหะจึ่งทูลว่า ได้มาแต่ครั้งหนีนกกระทุงนั้น พระเจ้าปักษีจำกรงจึ่งตรัสว่า เมื่อขณะนั้น ข้ามีความโกรธนัก ด้วยตาลวงข้าให้ตกใจ โทษตาก็มีอยู่ ให้ตาพิเคราะดู โทษจะมีประการใด เจ้าฟ้าทฬหะจึ่งทูลว่า โทษข้าพเจ้าก็ถึงที่ตาย ฃอพระองค์จงฆ่าข้าพเจ้าเสีย อย่าเอาไว้ จะเปนเยี่ยงอย่างต่อไป พระเจ้าปักษีจำกรงจึ่งตรัสว่า โทษ