หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/24

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒

บุรุษนั้นกลับมาเหนเมดแตงติดอยู่กับก้อนเหล็ก ก็เอาไปปลูกไว้ แตงนั้นก็งอกขึ้นจนมีผล บุรุษนั้นก็เกบเอามากิน มีโอชารศยิ่งนัก เพราะเหตุดังนั้น จึ่งได้นามชื่อว่า บุรุษแตงหวาน ฝ่ายพระมหากระษัตรภาบริวารไปเที่ยวประพาศเล่นในป่า ไปภบไร่บุรุษแตงหวาน ก็ภาบริวารเข้าไปเกบผลแตงของบุรุษนั้นเสวย มีโอชารศหวานนัก จึ่งตรัสสั่งไว้ว่า บุรุษแตงหวานนี้จงอุสาหรักษาผลแตงหวานนี้ไว้ให้เรา อย่าได้ซื้อขายให้ผู้ใด ถ้าแลซื้อขายให้ผู้ใดแล้ว เราจะให้ลงโทษท่านถึงสาหัศ แล้วพระมหากระษัตรองค์นั้นภาบริวารกลับไปพระนคร ภายหลัง มีบุรุษเลี้ยงโคคนหนึ่งไปเลี้ยงโคอยู่ริมไร่บุรุษแตงหวาน โคนั้นเข้าไปในไร่บุรุษแตงหวาน ๆ ก็ขับไล่โค ๆ ไม่หนีไป บุรุษแตงหวานมีความโกรธ จึ่งเอาก้อนเหล็กขว้างไปถูกท้องโค ก็ทะลุ โคนั้นก็ตาย บุรุษเลี้ยงโคจึ่งต่อว่าแก่บุรุษแตงหวานว่า เหตุใดท่านจึ่งฆ่าโคของข้าพเจ้าเสีย บุรุษเลี้ยงโคก็เอาความนั้นมาร้องแก่ตระลาการ ๆ จึ่งให้นายนักการมาจะเอาบุรุษแตงหวานนั้นไป บุรุษแตงหวานก็ว่า ไร่แตงนี้พระมหากระษัตรสั่งไว้ให้ข้าพเจ้าเฝ้าอยู่มิให้เปนอันตรายได้ เมื่อจะมาเอาตัวข้าพเจ้าไปแล้ว ก็ให้กราบทูลเสียก่อน ข้าพเจ้าจึ่งจะไป เสนามนตรีจึ่งกลับไปกราบทูลแก่พระมหากระษัตร ๆ จึ่งตรัสสั่งขุนนางออกไปเอาตัวบุรุษแตงหวาน ๆ เมื่อมานั้น ก็เอาเหล็กก้อนนั้นไปด้วย ครั้นเข้าเฝ้าพระมหากระษัตร ๆ จึ่งตรัสถามว่า เหตุไรจึ่งฆ่าโคของเขาเสีย บุรุษแตงหวานกราบทูลว่า บุรุษผู้เปนเจ้าของโคปล่อยโคให้เข้าไปในไร่ทั้งฝูง ไปเหยียบแตงซึ่งโปรดให้พิทักษรักษาไว้ถวาย กระหม่อมฉันกลัวความผิดเหลือสติกำลัง ไล่ไม่ฟัง จึ่งเอาก้อนเหล็กทิ้งไปถูกโคตัวหนึ่งตาย แล้วแต่