หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/4

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

มหัศจรรยนัก พวกอำมาตยราชมนตรีผู้ใหญ่ผู้น้อยเหนดังนั้น จึ่งกราบทูลพระเจ้าโกเมราชว่า ราษฎรชาวพระนครนี้เปนคนอยู่ในศีลห้าศีลแปดประการ มีแต่ความเมตตากรุณาแก่สัตว์ทั้งปวง ถึงว่ามีโทษทัณฑ์กรรมกรณ์ก็ผันผ่อนหย่อนแก่กันเอาแต่ความศุข เหตุไฉนพระราชกุมารองค์นี้ตั้งแต่ปฏิสนธิในพระครรภ์จึ่งให้โทษแก่นกทั้งปวงฉนี้ พระเจ้าโกเมราชก็พลอยทรงเหนด้วยกับเสนามนตรีทั้งปวงว่า พระราชกุมารซึ่งอยู่ในพระครรภ์เปนกาลกินี จึ่งตรัสสั่งให้เอาพระอรรคมเหษีซึ่งทรงครรภ์นั้นไปใส่แพลอยเสีย เสนามาตยราชปโรหิตจึ่งทูลทัดทานไว้ว่า ซึ่งจะทำโทษแก่พระอรรคมเหษีซึ่งทรงพระครรภ์อยู่นั้นไม่ควร ต่อเมื่อใดประสูตพระราชบุตรแล้ว จึ่งขับเสียจากพระนคร ท้าวโกเมราชจึ่งให้งดไว้ ครั้นพระอรรคมเหษีประสูตพระราชบุตรแล้ว พระเจ้าโกเมราชก็ขับเสียจากพระนคร พระอรรคมเหษีก็ภาพระราชบุตรเดินไป ได้ความลำบากเวทนา ด้วยเปนนางกระษัตร มีแต่ความศุข ไม่เคยตกยาก ด้วยเดชบุญญานุภาพของพระราชกุมารซึ่งจะได้ครองราชสมบัติในแว่นแคว้นแดนเขมร จึ่งร้อนขึ้นไปถึงพระอินทร์ ๆ ส่องทิพจักษุดูรู้เหตุแล้ว ก็นฤมิตรเพศเปนมนุษนุ่งห่มผ้าขาวลงมาเดินตามทางพลางย่นมรรคภาพระราชเทวีกับพระราชกุมารไปได้เจตวัน ถึงดงพระยาไฟ จึ่งนฤมิตรปราสาทให้อยุดภักอาไศรยอยู่ แล้วให้เสวยอาหารทิพย ลำดับนั้น พระอินทร์จึ่งภาพระราชเทวีกับพระราชกุมารมาถึงแดนโคกทลอก ไปภักอยู่ที่ภูเขาแห่งหนึ่งข้างทิศใต้ จึ่งให้นางกับพระราชกุมารอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งใกล้เมืองพระบาทชันชุม ครั้นพระราชกุมารมีพระชนมายุได้สามปี มีรูปโฉมอันงามตามวงษเทวราช มนุษผู้ใดในมนุษโลกย์นี้จะมีรูปอันงามเปรียบเหมือนพระราชกุมารนั้นไม่มี พระอินทร์