หน้า:เรื่องพระเจ้าปทุมสุริวงศ - ๒๔๗๔.pdf/5

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

มีความรักใคร่ยิ่งนัก จึ่งนฤมิตรเพศเปนบุรุษแกล้งมาเยี่ยมเยือนพระราชเทวีกับพระราชกุมาร พระราชเทวีเหนก็พูดจาไต่ถามว่า ท่านไปข้างไหน หายไปไม่เหนมาช้านานแล้ว พระอินทร์จึ่งบอกว่า ข้ากลับไปบ้าน ๆ ข้าอยู่ไกลนัก ข้ารำฦกถึงจึ่งมาหา กุมารนี้ข้าจะขอไปเลี้ยงไว้ นางจึ่งว่า ท่านมาแล้วหายไปถึง ๒ ปี ๓ ปี ข้าไม่ยอมให้ลูกของข้าไป บุรุษแก่จึ่งว่า ครั้งนี้ ข้าจะฃอเอาไปชมเล่นสักวันเดียว นางขัดมิได้จึ่งยอมให้แก่บุรุษแก่ ๆ ก็อุ้มพระราชกุมารไป ภอลับพระเนตรนางน่อยหนึ่ง ก็กลับเปนพระอินทร์ ๆ ก็ภาราชกุมารเหาะขึ้นไปดาวดึงษ์สวรรค์ พระราชกุมารเหนเทวสถานพิมานสวรรค์ก็มีความยินดียิ่งนัก เมื่อพระราชกุมารขึ้นไปสู่เทวนครนั้น เทพยดามาเฝ้าพระอินทร์เหม็นกลิ่นมนุษ พระอินทร์ก็คิดขวยเขินสเทินพระหฤไทย จึ่งชวนพระราชกุมารลงมา พระราชกุมารไม่ปราถนาจะลงมา ร้องไห้รักทิพยพิมานในสวรรค์ พระอินทร์จึ่งว่า ดูกร กุมาร เจ้าจงกลับลงไปเมืองมนุษเถิด เราจะสร้างเมืองให้อยู่ให้งามดุจเมืองสวรรค์นี้ พระอินทร์ก็ภาพระราชกุมารมายังสำนักนิ์พระนางซึ่งเปนพระมารดาในวันนั้น แล้วพระอินทร์จึ่งเหยียบสิลาแห่งหนึ่งเปนรอยพระบาทไว้บนยอดเขา เหนเปนรอยปรากฎอยู่จนทุกวันนี้ เมืองซึ่งอยู่ริมเขานั้นจึ่งได้ปรากฎนามชื่อว่า เมืองพระบาทชันชุม แล้วพระอินทร์จึ่งส่องทิพยจักษุพิจารณาดูรู้ว่า ในแว่นแคว้นแดนโคกทลอกนี้เปนที่ไชยภูมสมควรจะสร้างพระนครให้พระราชกุมารอยู่ได้ จึ่งตรัสใช้ให้พระพิศณุกรรมลงมาสร้างพระนครโคกทลอก เมื่อพระพิศณุกรรมลงมาสร้างพระนครถวายให้พระราชกุมารกับพระมารดาอยู่ ฝ่ายราษฎรที่อยู่ในป่าก็มาอยู่ด้วยพระราชกุมารบ้าง