ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/189

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
 ๒๑๖  โฉมหน้าศักดินาไทย

เดียวกับบ่อนคาสิโนของรัฐบาลชุดนายควง อภัยวงศ์ สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒) ผู้ผูกขาดทำภาษีเปิดบ่อนเบี้ยได้รับตำแหน่งเป็นขุนพัฒนสมบัติทุกคน ซ้ำมีศักดินา ๔๐๐ ไร่อีกด้วย การพนันที่เล่นกันข้างในบ่อนมีอยู่สามอย่าง คือ ถั่ว ๑ กำตัด ๑ และไพ่งา ๑ ต่อมาในชั้นหลังเปลี่ยนเป็นถั่ว, โปกำ และโปปั่น

การทำอากรบ่อนเบี้ยเป็นรายได้ชั้นหัวใจอย่างหนึ่งของรัฐบาลศักดินา ทั้งนี้ เพราะการละเลยไม่ช่วยพัฒนาการผลิตทางเกษตร ปล่อยให้การเกษตรล้าหลังทำให้รายได้ของประชาชนทางเกษตรต่ำลงจนถึงไม่พอเลี้ยงชีวิต ต้องขายตัวเป็นทาสกันชุกชุม และผลสะท้อนก็คือรายได้ของรัฐต่ำลงฮวบฮาบเสมอ ทางเดียวที่รัฐบาลศักดินาจะใช้แก้ไขเพื่อหาเงินก็คือเปิดบ่อนการพนันเพื่อขูดรีดประชาชนผู้หมดหนทางออกกระเซอะกระเซิงเข้ามาเล่นเบี้ย การเล่นเบี้ยทำให้รัฐบาลแก้ไขการไม่มีงบประมาณเพียงพอไปได้ชั่วระยะหนึ่งๆ แต่ปัญหาขั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจหาได้ดีขึ้นไม่ แต่รัฐบาลศักดินาก็พอใจในการแก้ปัญหาแบบปัดสวะให้พ้นท่าเช่นนั้น ได้เปิดบ่อนเบี้ยขึ้นทั่วประเทศ การขูดรีดจึงเป็นไปอย่างหนักหน่วงและทั่วถึง ตามสถิติในพ.ศ. ๒๔๓๑ ปรากฏว่ามีบ่อยเบี้ยในกรุงเทพฯ ถึง ๔๐๓ บ่อน บ่อนใหญ่ ๑๒๖ บ่อนเล็ก ๒๗๗ ตั้งอยู่อย่างทั่วถึงทุกตำบล

ตามสถิติจำนวนบ่อนเบี้ยใน พ.ศ. ๒๔๔๑ ปรากฏว่าในหัวเมืองต่างๆ มีจำนวนบ่อนเบี้ยดังนี้ :

มณฑลกรุงเก่า (อยุธยา) ๗๑ ตำบล
มณฑลนครไชยศรี ๑๘ ตำบล
มณฑลนครสวรรค์ ๒๖ ตำบล
มณฑลพิษณุโลก ๑๕ ตำบล
มณฑลปราจีน ๓๓ ตำบล