หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/85

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
 ๑๑๒  โฉมหน้าศักดินาไทย

ถูกแอกของรัฐทาสเขมรกดขี่เสียจนงอมพระรามไปตามๆ กัน

เรื่องที่เล่าถึงการขนส่วยน้ำอันทารุณนี้ บางทีอาจจะรู้สึกว่าออกจะมากไปหน่อย แต่ที่จริงยังน้อยไปด้วยซ้ำ ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ นั้น เมื่อขยี้รัฐต่างๆ ของไทยลงราบเรียบเป็นหน้ากลองแล้ว ก็ตั้งเจ้าเขมรบ้าง นายทหารเขมรบ้าง นายทาสไทยที่ซื่อสัตย์ต่อเขมรบ้าง ขึ้นเป็นเจ้าทาสครองเมืองเพื่อที่จะประกันความซื่อสัตย์ของเจ้าทาสคนใหม่ที่ตั้งตัวขึ้นไว้ ชัยวรมันที่ ๗ มีวิธีพิสดารอยู่อันหนึ่ง นั่นคือสร้างพระพุทธรูปขึ้นหลายองค์ แต่หน้าตาของพระพุทธรูปนั้นคือหน้าตาของชัยวรมันที่ ๗!๔๖ แล้วก็ส่งไปให้เจ้าทาสทั้งหลายตั้งบูชาไว้กลางเมือง พอถึงเดือนสี่จะมีการสรงน้ำทําพิธีไล่ซวยปีเก่า (ไม่ต้อนรับปีใหม่) ชัยวรมันที่ ๗ ก็เตรียมงานพิธีใหญ่ที่ปราสาทหินพระขัน (ในยุคนั้นเรียกว่านครชัยศรี) ตรงเหนือเมืองนครธมในการสรงน้ำนี้ นอกจากจะเกณฑ์น้ำสรงจากทะเลสาบชุบศรเมืองลพบุรีแล้ว ยังเกณฑ์ให้พวกเจ้าทาสเจ้าเมืองต่างๆ ยกขบวนแห่แหนพระพุทธรูปพิสดารนั้นมายังเมืองนครธม เพื่อเข้าร่วมพิธีสรงน้ำอีกด้วย หัวเมืองที่อยู่ไกลแสนไกลอย่างเมืองพิมาย, เมืองเพชรบุรี, ราชบุรี, ลพบุรี, สุพรรณภูมิ (อู่ทอง), สิงห์บุรี (เมืองสิงห์ในจังหวัดกาญจนบุรี) ฯลฯ๔๗ ต้องระทมข้าทาสแห่แหนรูปของชัยวรมันที่ ๗ ไปยังนครธมทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะถ้าไม่แห่แหนไป ก็ต้องข้อหากบฏแข็งข้อ เป็นอันว่าพวกไทยในแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาต้องถูกเจ้าทาสเขมรทารุณกรรมอย่างแสนสาหัส ปี หนึ่งๆ ไม่ต้องทําอะไร เพียงแต่ยุ่งอยู่กับแห่พระไปแห่พระกลับก็เกือบหมดปีเสียแล้ว

ความทารุณกดขี่ของพวกเขมรที่กระทําต่อไทยนี้ ทําให้ความขัดแย้งดําเนินไปสู่ขั้นแตกหัก พวกชุมชนไทยจึงรวมกันเข้าเพื่อสลัดแอกเขมร ในขณะนั้นเอง "นายร่วง" ลูกชายหัวสมองดีของ