หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/110

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๒

จึ่งมีศุภอักษรเข้ามาให้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้นักองค์วัตถาผู้น้องอยู่เพื่อคิดราชการบ้านเมืองแลการศพเจ้าทรงราชผู้บิดา ณ เมืองอุดงมีไชย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอนุญาตยอมให้นักองค์วัตถาอยู่ แต่ครอบครัวบุตรภรรยาของนักองค์วัตถายังค้างอยู่ในกรุงเทพมหานครนี้ นักองค์วัตถาอยู่กับพี่ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าอุปราชที่สองรองทรงราชลงมาแต่ก่อน แลถึงเวลานั้น ได้ว่าที่ทรงราชอยู่กับพี่ชายรองอุปราชลงมา มีตำแหน่งว่า องค์พระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้า เป็นที่สามของทรงราช เรียบร้อยกันเป็นปกติมาถึง ๕ เดือน ครั้นมาเมื่อเดือนจิตรมาส เป็นที่ ๕ แต่ต้นฤดูหนาวมา ตรงกันกับเดือนเอเปรียล ในปีวอก ปัจจุบันนี้ นักองค์วัตถากับนักองค์ศิริวงศ์ บุตรที่ ๔[1] ของเจ้าทรงราชเก่า เป็นน้องรองนักองค์วัตถาลงมา ได้มีที่อยู่แห่งเดียวกันในเมืองอุดงมีไชยแล้ว มีความวิวาทบาดหมางกันขึ้นกับเจ้าอุปราชพี่ชายใหญ่เล็กน้อย จึ่งมีชาวเมืองเขมรใจพาลพลอยยุยงนักองค์วัตถาให้ขุ่นเคืองขัดแย้งต่อพี่ใหญ่ ซ่องสุมคนบางพวกไว้ในบ้าน จนมีข่าวลือว่า จะคิดร้ายแก่เจ้าอุปราชผู้พี่ ๆ ให้ยกพวกพ้องไปลอมบ้านนั้น ด้วยคิดจะกำจัดคนที่ไปซ่องสุมเข้าพวกยุยงน้องชายทั้ง ๒ นั้นเสีย พวกบ้านในนั้นก็ต่อสู้รบกันขึ้นเล็กน้อยในเมืองอุดงมีไชย เห็นว่า จะสู้ไม่ได้ ก็พากันแตกหนีไปในที่ต่าง ๆ นักองค์วัตถา นักองค์ศิริวงศ์ ก็หนีมาจากเมืองอุดงมีไชยมาโดยลำดับหนทาง เข้ามาอาศัยในเมืองนครเสียมราฐ และเมืองพระตะบอง ซึ่งมิได้เป็นเมืองขึ้นเมืองอุดงมีไชย แต่ในเดือนวิสาข เป็นเดือนที่ ๖ ตรงกันกับเดือนเมในปีปัจจุบันนี้ แลนักองค์วัตถานั้นได้มีหนังสือฉบับหนึ่งกล่าวโทษเจ้าอุปราชพี่ชายต่าง ๆ ส่งเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ได้กราบ


  1. ลางทีเรียก ศรีวงศา