หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/111

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๓

บังคมทูลพระกรุณาให้ทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่ายเจ้าอุปราชผู้พี่ซึ่งรักษาเมืองอุดงมีไชยก็ได้มีศุภอักษรกล่าวโทษนักองค์วัตถาน้องชายและพวกพ้องเข้ามาให้กราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แลจะขอให้ชำระในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังไม่ทันทรงแต่งตั้งผู้รับสั่งไปชำระไต่ถามก่อน ได้มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้ขุนนางผู้หนึ่งออกไปรับนักองค์วัตถา นักองค์ศิริวงศ์ ที่หนีมาอยู่ ณ เมืองพระตะบองนั้นเข้ามายังกรุงเทพมหานคร แล้วให้ไต่ถามเอาถ้อยคำไว้ เมื่อนักองค์วัตถา นักองค์ศิริวงศ์ หนีมาจากเมืองอุดงมีไชยแล้ว พวกพ้องที่เข้าด้วยนักองค์วัตถาแต่ก่อน ซึ่งหนีไปในที่ต่าง ๆ นั้น ไปเที่ยวยุยงชาวบ้านชาวเมืองข้างนอกว่า นักองค์วัตถา นักองค์ศิริวงศ์ หนีมาทางใด เจ้าอุปราชผู้ว่าราชการเมืองเขมรจะให้ตามจับตัวมาทำโทษ เพราะเหตุที่ให้กำลังแก่น้องชายทั้ง ๒ ซึ่งหนีมานั้น เขมรในบ้านเมืองต่าง ๆ แทบทุกตำบลก็เกิดกำเริบ พากันคุมเข้าเป็นกองทัพแล้วยกไปว่า จะล้อมตีเอาเมืองอุดงมีไชย เจ้าอุปราชกับพระยาพระเขมรผู้ใหญ่เห็นว่า จะต่อสู้พวกเขมรที่ลุกลามยกเป็นกองทัพมานั้นไม่ได้แล้ว จึ่งพาครอบครัวบุตรภรรยาหนีมายังเมืองพระตะบองซึ่งเป็นเขตแขวงขึ้นกรุงเทพมหานคร แต่ในเดือนอุตราสาธแรก ตรงกันกับเดือนยุไล ในปีปัจจุบันนี้ แล้วมีศุภอักษรเข้ามาให้กราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท อ้อนวอนเข้ามาขอกองทัพในกรุงเทพมหานครนี้ให้ออกไปช่วย แต่องค์พระแก้วฟ้าน้องเจ้าอุปราชนั้น เพราะไม่ได้มีความขุ่นเคืองกับพวกซึ่งเข้าด้วยนักองค์วัตถา ก็ยังอยู่ที่เมืองอุดงมีไชย ฝ่ายพวกเขมรที่กำเริบยกเป็นกองทัพมานั้น มาถึงบ้านใดตำบลใดใกล้เมืองอุดงมีไชย ถ้าคนในบ้านนั้นตำบลนั้นไว้ตัวเป็นกลางอยู่ไม่เข้าพวกยกมาด้วย ก็เข้าตีรัน