หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/112

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๔

ฟันฆ่าแย่งชิงเอาทรัพย์สิ่งของเสบียงอาหารไปเป็นกำลังตัวเสียเป็นอันมาก ราษฎรที่ไว้ตัวเป็นกลางต้องความทุกข์ลำบากมากเพราะพวกที่กำเริบขึ้นนั้นดังนี้ พวกกองทัพซึ่งกำเริบขึ้นนั้นยกเข้ามาถึงเมืองอุดงมีไชยแล้วล้อมเมืองไว้ ฝ่ายองค์พระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้าจึ่งให้ออกไปเกลี้ยกล่อมพวกกองทัพที่ยกมานั้นว่า พวกนั้นยกมาด้วยมีความโกรธแก่พวกใด พวกนั้นหนีไปเสียจากบ้านเมืองเข้ามาอยู่ในเขตแขวงของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสียหมดแล้ว ต้นวิวาท คือ นักองค์วัตถา นักองค์ศิริวงศ์ ก็เข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานครนี้แล้ว ข้อคดีทั้งปวงเห็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็จะทรงชำระดอก องค์พระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้า กับญาติพี่น้องแลพวกพ้องที่อยู่เมืองอุดงไชย เป็นผู้ไม่มีผิด เป็นคนกลาง ไม่ได้เข้าข้างไหน ขอเสียเถิด อย่าปล้นเอาบ้านเมืองให้วุ่นวายไปเลย พวกกองทัพเห็นชอบด้วยจึ่งถอยออกไปแยกย้ายตั้งอยู่ในที่ต่าง ๆ ห่างเมืองอุดงมีไชย ออกมารักษากันตามพวก เที่ยวข่มขู่ราษฎร เก็บภาษีอากรเอาเองบ้าง ปล้นชิงคนเดินทางบกทางเรือคุมเหงเอาบ้าง ขอร้องเอาบ้างตามอำเภอใจ องค์พระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้า และพระยาพระเขมรที่อยู่ในเมืองอุดงมีไชย รักษาได้ก็แต่ตัวแลครอบครัวในที่อยู่ เมื่อจะเอื้อมออกไปว่า จะบังคับบัญชาก็ไม่ได้ จึงได้เขียนหนังสือให้คนใช้เล็ดลอดออกมาถึงเจ้าอุปราชถึงเมืองพระตะบองแลแจ้งการเข้ามา ณ กรุงเทพมหานครนี้ด้วย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเมื่อทราบข่าวเขมรมีการกำเริบทุกแห่งทุกตำบลดังนี้ จึงมีพระบรมราชโองการให้แต่งเรือรบสองลำออกไปอยู่รักษาเมืองกำปอด ป้องกันไม่ให้พวกเขมรที่กำเริบทำร้ายแย่งชิงแก่ลูกค้าวานิชต่างประเทศซึ่งเข้ามาค้าขายอยู่ ณ เมืองกำปอด แลให้ขอหนังสือประกาศแต่กงศุลอังกฤษ