หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/19

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

มากตั้งตัวเป็นเจ้าเป็นใหญ่ครอบครองแผ่นดินเขมรมาหลายชั่วตระกูลจนถึงเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่สุดวงศ์นั้น ในครั้งนั้น มีบุรุษผู้หนึ่ง เป็นชาวไร่แตง ปลูกแตงมีรสอันหวานมากกว่าแตงเจ้าของอื่นในแผ่นดินเขมรเป็นอัศจรรย์ ไพร่บ้านพลเมืองเล่าลือกันว่า บุรุษผู้นั้นอัศจรรย์ มีบุญมาก นับถือมาก เจ้าแผ่นดินเมืองเขมรจึ่งให้หาบุรุษนั้นมาบังคับว่า แตงในไร่ของบุรุษนั้นมีเท่าไร ให้มาขายแก่ในหลวงทั้งสิ้น อย่าให้ขายแก่ผู้อื่นเลย ถ้ามีผู้ใดเข้าไปลักแตง ให้ฆ่าเสีย ครั้นภายหลังมา เจ้าแผ่นดินองค์นั้นทราบว่า ชาวบ้านชาวเมืองนับถือบุรุษชาวไร่แตงหวานนั้นมาก ก็มีจิตคิดริษยา จะใช้ผู้อื่นไปทำร้ายแก่บุรุษนั้น ก็ไม่ไว้วางพระทัย เวลากลางคืน จึงลอบเสด็จเข้าไป ด้วยหวังว่า จะทำร้ายแก่บุรุษเจ้าของไร่แตง บุรุษเจ้าของไร่แตงสำคัญว่า โจร ก็ให้ประหารด้วยหอก เจ้าแผ่นดินเขมรองค์นั้นสิ้นชีวิตอยู่ในไร่แตงนั้น ครั้งนั้น คนทั้งปวงเป็นอันมากเห็นพร้อมกันว่า บุรุษเจ้าของไร่แตงหวานนั้นเป็นผู้มีบุญแท้ จึ่งบันดาลให้เจ้าแผ่นดินนั้นบัญชาสั่งให้อาญาสิทธิให้ฆ่าคนเป็นผู้ร้ายลักแตง แล้วเสด็จเข้าไปให้บุรุษนั้นฆ่าเสียเองเป็นอัศจรรย์ ถ้าจะยกแผ่นดินไปให้ผู้อื่น บ้านเมืองก็จะไม่เป็นสุขต่อไป เจ้าแผ่นดินที่สิ้นชีวิตแล้วนั้น ก็ไม่มีราชบุตรราชนัดดาที่เป็นชาย มีแต่ราชธิดาอยู่องค์หนึ่ง ครั้นจะยกขึ้นให้เป็นราชินีเหมือนอย่างครั้งหลังในที่สุดพระวงศ์สมเด็จพระเจ้าประทุมสุริยวงศ์นั้น ก็กลัวจะวุ่นวายหาชายสองชายสามไปอย่างก่อน เพราะฉะนั้น จึ่งได้ปรึกษาพร้อมกันอัญเชิญชายชาวไร่แตงหวานนั้นมาเป็นพระเจ้าแผ่นดินให้อยู่กับราชธิดา เรียกว่า พระเจ้าแตงหวาน จึ่งได้มีราชโอรสราชนัดดาปนัดดาสืบ ๆ ต่อมาจนเจ้านายฝ่ายเขมรในกาลบัดนี้นาน ๕๐๐ ปีขึ้นไป ๖๐๐ ปีลงมา วงศ์แตงหวานนี้ตั้งขึ้นเมื่อแผ่นดินเขมรมีอำนาจอ่อนหย่อน