หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/34

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙

กันเป็นปกติ แล้วจัดแจงการบ้านเมืองเสียใหม่ให้เรียบร้อย มิให้พระยาพระเขมรในเมืองนอกเมืองถือแยกย้ายเป็นสองพวกสามเหล่า พระยาสุรสงครามยกไปถึงท่ากะพงหลวง มีเขมรพวกองค์สมเด็จพระอุทัยราชาธิราชจันมาคอยสกดเอาปืนยิงห้ามไม่ให้ขึ้นบก พวกพระยาสุรสงครามก็มิได้ยิงตอบ โบกธงห้ามให้รอฟังคำประกาศ ก็หาฟังไม่ เอาปืนยิงไล่จนพระยาสุรสงครามถอยล่าไปหาแม่ทัพใหญ่ ฝ่ายองค์สมเด็จพระอุทัยราชาธิราชจัน เมื่อทราบว่า กองทัพในกรุงเทพมหานครยกออกไป ก็พานักมารดา ครอบครัว บุตร ภรรยา ลงเรือล่องทิ้งบ้านเมืองเสียหนีไปเมืองญวน สมเด็จพระมหาอุปราชกับนักองค์ด้วงผู้น้องห้ามปรามไว้ก็หาฟังไม่ มีองญวนคุมเรือญวนขึ้นมาหลายลำ ป้องกันพาองค์สมเด็จพระอุทัยราชาธิราชล่องลงไป สมเด็จพระมหาอุปราชกับนักองค์ด้วย ด้วยเหตุที่ได้เกียดกันสมเด็จพระอุทัยราชาธิราชจันมิให้ไปนั้น ครั้นญวนพากันไปจนได้ ก็มีความสะดุ้งตกใจกลัวภัยแก่ญวน จึ่งพานักมารดา ครอบครัว บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ หนีออกจากเมืองบรรทายเพชรขึ้นมาหาแม่ทัพใหญ่ ขอให้ส่งเข้าไปกรุงเทพฯ จะได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จะกราบทูลความสมัครสวามิภักดิ์ ขอทำราชการฉลองพระเดชพระคุณในกรุงเทพฯ แล้ว ไม่สมัครอยู่ด้วยสมเด็จพระเรียม ณ เมืองบรรทายเพชร เจ้าพระยายมราชแม่ทัพก็ได้ส่งสมเด็จพระมหาอุปราชกับนักองค์ด้วงเข้าไปยังกรุงเทพฯ ตามสมัคร แต่สมเด็จพระมหาอุปโยราชนั้นยังให้ตั้งรั้งรออยู่ที่เมืองโพธิสัตว์เอาใจเขมรไพร่บ้านพลเมืองว่า เจ้านายยังมีอยู่ แล้วเจ้าพระยายมราชจึงได้ยกลงไปเมืองบรรทายเพชร ครั้งนั้น เขมรครอบครัวพากันลงเรือล่องไปเมืองญวนตามองค์สมเด็จพระอุทัยราชาธิราชจันบ้าง เตรียมจะล่องไปบ้างเป็นอันมาก เจ้าพระยายมราช