หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/2

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๏หนังสือจดหมายเหตุ๚


Bangkok Recorder.

Vol. 1. เล่ม ๑ บังกอก เดือนแปดปัถมาสาตร์ จุลศักราช ๑๒๐๖ July, 1844.
ใบ ๑ No. 1.
คริศศักราช ๑๘๔๔


พวกครูอะเมริกาซึ่งอาไศรยอยู่หน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ได้ปฤกษาพร้อมใจกันว่า, จะแต่งหนังสือข่าวตีภิมเปนภาษาไท, ตีภิมเดือนละแผ่น ขนาดกว้างยาวเท่ากับแผ่นนี้, คือ ปีหนึ่ง สิบสองแผ่น. ในหนังสือข่าวนั้น จะมีข่าวใหม่มาแต่เมืองซิงกะโประ, เมืองจีน เมืองพม่า เมืองกลาป่า เมืองกาลกัดตา เมืองลังกา เมืองบัมเบ เมืองซุรัต เมืองอิงลันดา เมืองฝรั่งเศศ เมืองอเมริกา แลอีกหลายเมือง. จะบอกไว้ว่า มีข่าวมาแต่ทุกเมือง. อนึ่ง ในหนังสือนี้ จะให้รู้ราคาของ, ซึ่งเอาไปจากเมืองนี้ไปฃายในเมืองนอก, แลของในเมืองนอก, เอามาฃายในเมืองนี้. อนึ่ง ลางทีจะว่าดว้ยพงษาวะดานแลทำเนียมแห่งเมืองนอก. อนึ่ง ลางทีจะว่าดว้ยตำรารักษาโรคต่าง ๆ, แลบอกซึ่งสิ่งที่จะกระทำมิให้มีโรคดว้ย. อนึ่ง ลางทีจะแต่งคำสอนสำหรับคนซึ่งปราถนาจะเรียนคำอังกฤษ. ผู้แต่งหนังสือนี้ปราถนาจะแต่งให้เปนประโยชน์แลเปนที่จำเริญใจแก่ผู้อ่าน. ราคาหนังสือข่าวนี้ปีละบาท คิดเปนหนังสือสิบสองแผ่น. ถ้าฅนจะซื้อทั้งปีแล้ว ก็เอาเงินบาทหนึ่ง, จะให้เงินเมื่อได้แผ่นที่หนึ่งก็ได้, จะให้เงินเมื่อถึงแผ่นที่หกก็ได้, ตามแต่ใจผู้ซื้อ. อย่างหนึ่ง ถ้าไม่ปราถนาจะซื้อให้ครบปี, จะซื้อแผ่นหนึ่งสองแผ่นตามใจปราถนาของตนนั้น, ก็ตีราคาไว้แผ่นละเฟื้อง.


อันว่าไฟฟ้านั้น อยู่ในดินทุกแห่ง, แต่ทว่า อยู่แห่งละนอ้ย ๆ ทั่วทั้งแผ่นดิน. แลไฟฟ้านั้น ออกจากดินทีละนอ้ย ๆ ทุกวัน, ขึ้นพร้อมกับอายดินแลอายน้ำ, ขึ้นไปประชุมพร้อมกันอยู่ในเมฆ. อันธรรมดาไฟฟ้านั้น ถ้าประชุมอยู่ในเมฆกอ้นหนึ่งมาก, ในเมฆกอ้นหนึ่งนอ้ย, ถ้าแลเมฆสองกอ้นนั้นใก้ลกันเข้าแล้ว, ไฟฟ้าที่มากนั้นก็จะแลบแล่นไปหาที่นอ้ยให้อยู่เท่ากัน. เพราะเหตุดังนั้น เราจึ่งได้เหน, เมื่อฟ้าร้องแลแลบแล่นไปจากเมฆหนึ่งไปถึงเมฆอื่น. อีกประการหนึ่ง, เมฆซึ่งเต๊มดว้ยไฟฟ้านั้น ลอยลงมาใก้ลแผ่นดินแล้ว, ไฟฟ้าที่มีมากอยู่ในเมฆนั้น, ก็แล่บแล่นออกไปหาไฟฟ้าที่นอ้ยที่อยู่ในดินไห้เสมอเท่ากัน. อันธรรมดาไฟฟ้าแลบลงมาจากเมฆนั้น, ก็ยอ่มลงมาตามของอันตั้งอยู่สูง, คือ เสากระโดง, แลต้นไม้, แลเรือน, เปนทางที่สายฟ้าจะลงมาถึงแผ่นดิน.

แต่ทว่า มีของหลายสิ่งที่ไม่ชอบกับไฟฟ้า, คือ แก้ว, แลยางไม้, แลกำมะถัน, แลไหม, แลขนสัตวทั้งปวง, แลไม้ที่หย้างไฟภอแห้ง, สิ่งทั้งปวงนี้ไม่ชอบกับไฟฟ้า, ไม่เปนหนทางแห่งไฟฟ้า. แลสิ่งที่ไฟฟ้าชอบมักตามไปนั้น, คือ เงิน เปนต้น, แลทองแดง เปนที่สอง, ทองคำ เปนที่สาม, สังกะสี เปนที่สี่, เหลก เปนที่ห้า, ตะกัวเกรียบ เปนที่หก, ตะกัวดำ เปนที่เจด. เมื่อไฟฟ้ามาใก้ลจะถึงสิ่งทั้งปวงนี้, สิ่งนี้ก็ยอ่มชักให้ไฟฟ้าลงไปตามสิ่งนี้. นักปราชทั้งปวงได้เหนดังนั้น จึ่งคิดดูว่า, เงิน แลเหล๊ก แลทองแดง ชักไฟฟ้ามากเท่าไร, แล้วจึ่งคิดทำเปนตำราห้ามไฟฟ้า, มิให้ตกถูก เปนต้นว่า เรือน, แลกำปั่น, แลสิ่งของทั้งปวง. ถ้าแลมีที่เปนวงกลมเลกใหญ่เท่าใดมืได้กำหนฎ, ถ้าจะมิให้ไฟฟ้าถูก, จึ่งเอาเงินก็ได้, แลเหลกออ่นก็ได้, แลทองแดงก็ได้, เอาแต่อย่างเดียว ทำให้เปนสี่เหลี่ยมสามกระเบียด, ปักไว้ในดินให้สูงส่วนหนึ่ง, ให้วัดดูที่วงนั้นโดยตรงเปนสี่ส่วน เอาส่วนหนึ่ง, จึ่งเอาแท่งเงินก็ดี, แลแท่งเหลกออ่นก็ดี, แลแท่งทองแดงก็ดี, ตามแต่จะเอาอย่างหนึ่ง, ทำให้เปนสี่เหลี่ยมสามกระเบียด ปักตั้งแต่ดินขึ้นไป, ให้สูงเท่าส่วนหนึ่งนั้น. เมื่อไฟฟ้าลงมา ก็จะลงมาตามแท่งเงิน, แลแท่งเหลกออ่น แลแท่งทองแดง, ที่ปักไว้ มิได้ถูกตอ้งของอื่น ๆ ในวงนั้นเลย. ถ้าวงนั้นกว้างแปดวา, ก็จะตอ้งปักแท่งเงิน แลแท่งเหลกออ่น แลแท่งทองแดง ให้สูงสองวา. ในเมืองนักนั้น, เขาได้ใช้แต่เหลก