ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Ratchakan Thi Si (1) 2464.djvu/30

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๓

ผู้อปโลกนั้น อนึ่ง ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า การซึ่งถวายสังฆทานดังนี้ ถ้าจะเทียบคู่กับพระบาลีอรรถกถาฏีกา ก็หาถูกต้องโดยสนิทไม่ เมื่อว่าที่แท้ก็เปนปาฏิกบุคลิกทาน แต่อ้างว่าเปนสังฆทานเท่านั้น จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสสั่งให้นิมนต์สมเด็จพระวันรัตน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระศรีวิสุทธิวงศ์ มาพร้อมกันณพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ในพระบรมมหาราชวัง มีพระบรมราชโองการดำรัสเล่าพระกระแสพระราชดำริห์ให้ฟัง แล้วนิมนต์ให้สมเด็จพระวันรัตน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระศรีวิสุทธิวงศ์ ลงไปเฝ้าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัติยวงศ์ กราบทูลโดยกระแสพระราชดำริห์ทั้งปวงนั้นให้ทรงทราบ เมื่อปฤกษาเห็นพร้อมกันว่า ซึ่งกระแสพระราชดำริห์นั้นชอบแล้ว จะได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ออกบำเพ็ญพระราชกุศลในวันปรกติแลวันอุโบสถด้วยโภชนทานสืบไปในเบื้องน่า.

จึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จพระวันรัตน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระศรีวิสุทธิวงศ์ พร้อมกันเห็นว่า ซึ่งข้อพระราชดำริห์ทั้งปวงนั้นชอบแล้ว ต้องตามพระบาลีอรรถกถา ด้วยสังฆทานที่พระผู้มีพระภาคตรัสเทศนาในทักขิณาวิภังคสูตรมี ๗ ประการ แลบิณฑบาตรทานส่วนพระราชกุศลนี้ก็เปนสังฆคตาทักขิณาที่ ๖ ที่จำแนกในพระบาลีว่า “เอตฺตเก เม ภิกฺขู ภิกฺขุสงฺฆโต อุททิสฺสถาติ ทานํ เทติ” ดังนี้ ในพระวินัยเล่าก็สมกับพุทธานุญาตว่า “อนุชามามิ ภิกฺขเว สํงฺฆภตฺตํ ฯลฯ ปาฏิปาทิกํ” ดังนี้ คำพระ