ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Ratchakan Thi Si (1) 2464.djvu/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๙

วังเปนผู้ร้าย จึงคิดการเอาสิ่งของไปได้ดังนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาบริรักษ์ราชา พระพรหมสุรินทร์ พระพรหมธิบาล พระศรีพิทักษ์ เปนตุลาการชำระเอาตัวผู้ร้ายให้จงได้ ตุลาการพิจารณาได้ความว่า อีปริกภรรยานายนุดอยู่นอกพระบวรราชวัง เข้าไปคบหากันกับหม่อมหุ่น หม่อมนวม ในพระบวรราชวัง ตั้งบ่อนไพ่บ่อนถั่วมาหลายครั้ง เสียหายสิ้นทรัพย์สิ่งของจนเปนหนี้ลง อีปริกกับหม่อมหุ่นหม่อมนวมคิดกันว่า พระองค์เจ้าหญิงสุดไม่อยู่ ลูกกุญแจประตูตำหนักอยู่กับขำข้าหลวง ขำหาอยู่ไม่ไปดูงานพระศพ อีปริกกับหม่อมหุ่นหม่อมนวมจึงไปหาลูกกุญแจได้ริมที่นอน เพลา ๕ โมงเช้าอีปริกเอาลูกกุญแจไขประตูตำหนัก ให้หม่อมหุ่นหม่อมนวมเข้าไปในตำหนัก อีปริกลั่นกุญแจประตูไว้ดังเก่า แล้วเอาลูกกุญแจไว้ข้างที่นอนตามเดิม อีปริกจึงมาคอยดูระวังคนข้างนอก หม่อมหุ่นหม่อมนวมจึงลั่นกลอนประตูไว้ แล้วค้นหาลูกกุญแจหีบกำปั่น ได้ลุกกุญแจกำปั่นในหีบหนัง จึงเอาลูกกุญแจไขได้ทรัพย์สิ่งของทองรูปพรรณหลายสิ่งเปนทองคำหนัก ๑๘ ตำลึงบาท หม่อมหุ่นหม่อมนวมเปิดน่าต่างข้างเฉลียงออกมา แต่กลอนประตูนั้นใส่อยู่หาได้ถอดไม่ หม่อมหุ่นหม่อมนวมพาทองรูปพรรณไปที่เรือนหม่อมหุ่น พอดวงแก้วมารดาหม่อมหุ่นเข้าไปเยี่ยม หม่อมหุ่นอยู่ที่นั้นด้วย หม่อมหุ่นกับหม่อมนวมจึงเอาทองรูปพรรณออกมาตัดแบ่งเปน ๔ ส่วน ให้อีปริกส่วนหนึ่ง ดวงแก้วมารดาหม่อมหุ่นส่วนหนึ่ง ยังอิก ๒ ส่วนนั้นหม่อมหุ่นหม่อมนวมปันกันคนละส่วน ตุลาการให้ชำระเร่งเอาทองรูปพรรณซึ่งผู้ร้าย