อรรถกถา ราหุโลวาทสูตร
- อรรถกถาราหุโลวาทสูตร
- (บาลี จูฬราหุโลวาทสูตฺตํ )
- ราหุโลวาทสูตร ขึ้นต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
- ในพระสูตรนั้น คำว่า บ่มวิมุตติ มีวิเคราะห์ว่า ที่ชื่อว่า
บ่มวิมุตติ ก็เพราะทำวิมุตติให้สุกงอม. คำว่า ธรรม ได้แก่ ธรรม
๑๕ อย่าง. ธรรมเหล่านั้น พึงทราบด้วยอำนาจแห่งของความหมดจดแห่ง
อินทรีย์มีความเชื่อเป็นต้น . สมจริง ดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า
- (๑) อินทรีย์คือความเธอย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ อย่างเหล่านี้ คือ
- ก. เว้นบุคคลผู้ไม่มีความเชื่อ.
- ข. เสพ คบ เข้านั่งใกล้ บุคคลผู้มีความเชื่อ.
- ค. พิจารณาสูตรที่เป็นเหตุให้เกิดความเลื่อมใส.
- (๒) อินทรีย์คือความเพียรย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ อย่างเหล่านี้ คือ
- ก. เว้นบุคคลเกียจคร้าน.
- ข. เสพ คบ เข้านั่งใกล้บุคคลผู้ปรารภความเพียร.
- ค. พิจารณาถึงความเพียรชอบ.
- (๓) อินทรีย์คือความระลึกย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ อย่างเหล่านั้น คือ
- ก. เว้นบุคคลผู้หลงลืมสติ.
- ข. เสพ คบ เข้านั่งใกล้บุคคลผู้ตั้งสติมั่น.
- ค. พิจารณาหลักการตั้งสติ (สติปัฏฐาน).
- (๔) อินทรีย์คือความตั้งใจมั่นย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ อย่างเหล่านั้น
คือ
- ก. เว้นบุคคลผู้ไม่ตั้งใจมั่น.
- ข. เสพ คบ เข้านั่งใกล้บุคคลผู้ตั้งใจมั่น.
- ค. พิจารณาฌานและวิโมกข์.
- (๕) อินทรีย์คือความรู้ชัดย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ อย่างเหล่านี้ คือ
- ก. เว้นบุคคลผู้มีปัญญาทราม.
- ข. เสพ คบ เข้านั่งใกล้บุคคลผู้มีปัญญา.
- ค. พิจารณาญาณจริยาที่ลึกซึ้ง.
- เมื่อเว้นบุคคล ๕ พวก เสพ คบ เข้านั่งใกล้บุคคล ๕ พวก พิจารณา
กองสูตร ๕ กองเหล่านี้ ดังว่ามานี้ ด้วยอาการ ๑๕ อย่างเหล่านี้ อินทรีย์ทั้ง
๕ อย่างก็ย่อมหมดจด. ยังมีธรรมสำหรับ บ่มวิมุตติอีก ๑๕ อย่างคือ อินทรีย์
มีความเธอเป็นต้น เหล่านั้น ๕ อย่าง ความสำคัญอันเป็นส่วนแห่งการแทงตลอด
(นิพเพธภาคิยสัญญา) ๕ อย่างเหล่านี้คือ ความสำคัญว่าไม่เที่ยง ความสำคัญว่า
เป็นทุกข์ในสิ่งที่ไม่เที่ยง ความสำคัญว่าไม่ใช่ตัวตนในสิ่งที่เป็นทุกข์ ความ
สำคัญในการละ ความสำคัญในวิราคะ และธรรมอีก ๕ อย่างมีความเป็น
ผู้มีมิตรดีงามเป็นต้น ที่ตรัสแก้พระเมฆิยเถระ.
- ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระดำริอย่างนี้ในเวลาใดเล่า.
ตอบว่า เมื่อพระองค์ทรงตรวจดูโลก ในสมัยใกล้สว่าง ก็ทรงมีพระดำริอย่างนี้.
คำว่า เทวดาหลายพันองค์ ความว่า ทานพระราหุลตั้งความปรารถนาไว้
แทบบาทมูลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ ในครั้งที่เป็น
พญานาคชื่อปาลิต พร้อมกับเทวดาที่ตั้งความปรารถนาไว้เหมือนกัน. ก็แหละ
บรรดาเทวดาเหล่านั้น บางพวกก็เป็นเทวดาอยู่บนแผ่นดิน. บางพวกก็เกิดใน
อากาศ. บางพวกก็อยู่จาตุมหาราชิกา. บางพวกก็อยู่ในเทวโลก. บางพวกก็
เกิดในพรหมโลก. แต่ในวันนี้ เทวดาทั้งหมดมาประชุมกันในป่า อันธวัน
นั่นแลในทีเดียวกัน . คำว่า ดวงตาเห็นธรรม ความว่า ปฐมมรรค (โสดา
ปัตติมรรค) ท่านเรียกว่า ดวงตาเห็นธรรม ในอุปาลีโอวาทสูตร และทีฆนขสูตร.
ผลทั้งสามท่านเรียกว่า ดวงตาเห็นธรรม ในพรหมายุสูตร. ในสูตรนี้ มรรค ๘
ผล ๔ พึงทราบว่าเป็น ดวงตาเห็นธรรม. ก็แหละ ในบรรดาเทวดาเหล่านั้น
เทวดาบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน . บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกก็
เป็นอนาคามี บางพวกก็เป็นพระขีณาสพ. และก็การกำหนดด้วยอำนาจนับ
จำนวนเทวดาเหล่านั้นว่าเท่านั้น เท่านี้ไม่มี. คำที่เหลือในที่ทุกแห่งตื้นทั้งนั้นแล.
- จบอรรถกถาราหุโลวาทสูตร ที่ ๕