หน้า:คำพิพากษาคดีกบฏ - กรมโฆษณาการ - ๒๔๘๒.pdf/13

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐

๙. นายพลตรี หม่อมเจ้าวงศ์นิรชร เทวกุล และนายร้อยตำรวจเอกน้อม เทวคุปต์ จำเลย ได้ให้ทรัพย์และกำลังความคิดทั้งกล่าวติเตียนใส่ร้ายรัฐบาลเกลี้ยกล่อมชักชวนราษฎรให้กระด้างกระเดื่อง และให้ความร่วมมือเปลี่ยนแปลงยึดอำนาจการปกครองในคราวกบฏ พ.ศ. ๒๔๗๖ ตามคดีดำที่ ๑ ถึง ๖๘/๒๔๗๖ ของศาลพิเศษตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๗๖ นอกจากนี้ยังได้ร่วมคิดใช้ให้นายยังไปดักยิงนายพลตรี หลวงพิบูลสงครามที่ตลาดศรีย่านอรกด้วย

๑๐. ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็นต้นมาจนถึงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๑ นายพันเอก พระยาสุรศักดิ์เสนส จำเลย ได้เกลี้ยกล่อมทหาร พลเรือน และสะสมกำลังศาสตราวุธโดยกล่าวว่า เวลานี้บ้านเมืองมันยุ่งเหยิงเหลือเกิน ทหารไม่อยู่ส่วนทหาร ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องในการปกครองบ้านเมือง ทำให้ปั่นป่วนกันพิลึกใหญ่ บ้านเมืองที่ไม่มีพระเจ้าอยู่หัวจะเป็นอย่างไร พระยาสุรศักดิ์เสนา มีความประสงค์จะเชิญพระปกเกล้า ฯ มาครองราชสมบัติตามเดิม และแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราโดยมิให้ทหารเกี่ยวข้องกับการเมือง ทหารจะเคลื่อนขะบวนไปในที่ต่าง ๆ จะต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าอยู่หัวเสียก่อน

๑๑. ระหว่างเดือนเมษายนถึงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ นายพันเอก หลวงชำนาญยุทธศิลป์, นายร้อยเอก ขุนคลี่พลพฤนท์ นายพันตำรวจตรี ขุนนามนฤนาท, นายพันตรี หลวงไววิทยาศร และนายพันตรี หลวงอภิบาลภูวนารถ จำเลย ได้เกลี้ยกล่อมข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎร ทั้งเตรียมหาศาสตราวุธไว้เป็นกำลังเพื่อยึดอำนาจการปกครอง ทำลายล้างรัฐบาล มีจุดประสงค์จะอัญเชิญพระปกเกล้า ฯ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และให้พระยาทรงสุรเดช เป็นนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวต่อประชาชนว่า คณะรัฐบาลนี้เป็นคอมมิวนิสต์ นอกจากนี้ได้สมคบร่วมคิดกับนายพันโท หลวงรณสิทธิพิชัย, นายพันเอก พระยาฤทธิอัคเนย์, นายพันตรี หลวงวรณสฤช, นายพิทย์ ผัลเตมีย์ (นายพันตำรวจเอก