เมืองหงสาวดีณเดือนเจ็ด แรมสิบสองค่ำ มองระบุตรมังลองซึ่งเป็นกองทัพหน้ายกไปก่อน ได้รบกันกับกองทัพรามัญพระยาอุปราชาน้องเจ้าเมืองหงสาวดีที่เมืองเปรแต่เดือนเจ็ด แรมสิบสองค่ำ ปีหนึ่ง กองทัพพระยาอุปราชาสมิงรามัญทั้งปวงแตกหนีถอยหลังทัพลงไปตั้งรับอยู่ณเมืองย่างกุ้ง แต่ทัพมังลองตั้งยั้งทัพอยู่ณเมืองเปร มองระซึ่งเป็นทัพหน้าติดพันตามกันลงไปรบที่เมืองย่างกุ้ง แต่ณเดือน ๑๑ ข้างแรม ในปีนั้น ครั้นเมื่อศักราชได้ ๑๑๑๗ ปี เดือนหก แรม ๕ ค่ำ พระยาอุปราชาสมิงรามัญแตกจากเมืองย่างกุ้งไปตั้งมั่นอยู่ณเมืองเสี้ยง มังลองยกลงมาอยู่ณเมืองย่างกุ้งปีหนึ่ง ให้กองทัพหน้ามองระผู้บุตรเป็นโปชุกแม่ทัพหลวง กับเสนาบดี เสนัดหวุ่น แมงละแมงฆ้อง นายทัพนายกองทั้งปวง ยกไปตีเมืองเสี้ยงแต่เดือนเจ็ด ข้างแรม ได้ ๑๑ เดือน ได้เมืองเสี้ยง แล้วพร้อมทัพกับมังลองที่เมืองสี้ยงนั้น แล้วมังลอง กับมองระบุตร กับเสนาบดีนายทัพนายกองทั้งปวง ยกไป มังลองให้ตั้งเมืองที่ตำบลบ้านเจตุวะดี ทางไกลกันกับเมืองหงสาวดี ๕๐ เส้น พระยาหงสาวดีให้อำมาตย์ผู้ใหญ่เอาเครื่องบรรณาการออกมาให้แก่มังลอง แล้วเจรจาความเมืองกันว่า พระยาหงสาวดีจะเอาบุตรีมาให้แก่มังลอง ๆ จึงสั่งว่า อย่าเพ่อให้กองทัพทั้งปวงล่วงเข้าไปตีเมืองปะโก้ก่อน ครั้นถึงศักราชได้ ๑๑๑๘ ปี เดือน ๔ ขึ้น ๕ ค่ำ เจ้าเมืองหงสาวดีเอาบุตรีอายุ ๑๗ ปีมาให้แก่มังลอง แล้วพระยาอุปราชา พระยาทะละผู้น้อง ตละป้านผู้หลานพระยาหงสาวดี ติเตียนพระยาหงสาวดีว่า ทำไมจึงเอาลูกสาวไปยกให้แก่มังลอง พระยาพี่จะออกไปเป็นข้ามังลองก็ออ
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/15
หน้าตา