เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๑๐๔ ก
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
ราชกิจจานุเบกษา
นอกจากคณะกรรมการทางวิชาการตามวรรคหนึ่ง นายกราชบัณฑิตยสถานมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการอื่น เพื่อทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาราชบัณฑิต
ให้กรรมการทางวิชาการตามวรรคหนึ่ง และกรรมการอื่นตามวรรคสอง ได้รับค่าตอบแทนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา๓๕ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการราชบัณฑิตยสถานคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
(๑)อุปนายกราชบัณฑิตยสถานซึ่งนายกราชบัณฑิตยสถานมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และอุปนายกราชบัณฑิตยสถานอีกคนหนึ่ง เป็นรองประธานกรรมการ
(๒)ประธานสำนักและเลขานุการสำนักทุกสำนัก เป็นกรรมการ
(๓)ราชบัณฑิตซึ่งมิได้เป็นประธานสำนักหรือเลขานุการสำนัก ซึ่งแต่ละสำนักแต่งตั้งสำนักละหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๔)เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน เป็นกรรมการและเลขานุการ และรองเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการส่งเสริมกิจการราชบัณฑิตยสถานมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอข้อแนะนำแก่ราชบัณฑิตยสถาน ประสานงานและสนับสนุนการดำเนินกิจการของราชบัณฑิตยสถาน โดยเสนอต่อนายกราชบัณฑิตยสถาน
การแต่งตั้งและวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการตาม (๓) การดำเนินงานและการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบสภาราชบัณฑิต
มาตรา๓๖ให้มีเลขาธิการราชบัณฑิตยสถานคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของราชบัณฑิตยสถาน และปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบาย ข้อบังคับ ระเบียบ และมติของสภาราชบัณฑิต และจะให้มีรองเลขาธิการราชบัณฑิตยสถานปฏิบัติราชการด้วยก็ได้
ให้เลขาธิการราชบัณฑิตยสถานและรองเลขาธิการราชบัณฑิตยสถานเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน ให้แต่งตั้งจากข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งที่อยู่ในหน้าที่ของราชบัณฑิตยสถานและการบริหารราชการแผ่นดิน โดยดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
มาตรา๓๗ให้ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิต และราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นภาคีสมาชิก ราชบัณฑิต หรือราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แล้วแต่กรณี ตามพระราชบัญญัตินี้