ให้ข้าหลวงลอบถือเข้าไปถวายพระวิสุทธิกษัตรีมเหสีที่ในพระนครว่า ศึกหงสาวดีเข้ามาล้อมประชิดพระนครได้ถึงเพียงนั้นแล้ว ไม่พอที่สมเด็จพระมหินทรฯ จะดื้อดึงต่อสู้ไปให้ผู้คนล้มตายเสียเปล่า ๆ ควรจะขอเป็นไมตรีกับพระเจ้าหงสาวดีเสียแต่โดยดี พระเจ้าหงสาวดีก็ตรัสอยู่ว่า เหตุการณ์ทั้งปวงที่ได้มีมา เป็นเพราะพระยารามฯ คนเดียวยุยงให้พี่น้องเกิดวิวาทกัน ถ้าไม่มีพระยารามฯ กีดขวาง ก็เห็นจะกลับดีกันได้ เพราะฉะนั้น ถ้าสมเด็จพระมหินทรฯ ส่งตัวพระยารามฯ ถวายพระเจ้าหงสาวดีเสียแล้วขอเป็นไมตรี พระเจ้าหงสาวดีก็เห็นจะยอมเลิกรบเหมือนอย่างครั้งก่อน พระวิสุทธิกษัตรีถวายหนังสือนั้นแก่สมเด็จพระมหินทรฯ ก็โปรดให้แม่ทัพนายกองประชุมปรึกษากัน เวลานั้นพวกแม่ทัพนายกองท้อใจมาตั้งแต่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคตแล้ว ปรึกษากันเห็นว่า การต่อสู้เสียเปรียบข้าศึกมากนัก ถึงจะรบพุ่งกันไป ก็พ้นวิสัยที่จะหมายเอาชัยชะนะได้ แม้ตัวพระยารามฯ เองก็สิ้นความคิด มิรู้ที่จะทำอย่างไร จึงเห็นร่วมกันโดยมากว่า ควรจะขอเป็นไมตรีตามที่พระมหาธรรมราชาแนะนำ ในเวลานั้นพระองค์พระมหินทรฯ เองก็ทนทุกข์มาจนจวนจะประชวรอยู่แล้ว จึงตรัสอาราธนาสมเด็จพระสังฆราชให้ออกไปเจรจาขอเป็นไมตรียอมแพ้ด้วยผ่อนผันกันโดยดี และให้คุมตัวพระยารามฯ ไปถวาย
หน้า:พระประวัติสมเด็จพระนเรศวรฯ - ดำรง - ๒๔๙๓.pdf/34
หน้าตา