- คดีดำที่ ๑๙๗ พ.ศ. ๒๔๘๒
- คดีแดงที่ ๒๗๘ พ.ศ. ๒๔๘๒
ในระหว่าง | กระทรวงการคลัง | โจทก์ | ||
สมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่ ๑ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ที่ ๒ | จำเลย |
ผู้พิพากษา ซึ่งมีนามต่อไปข้างท้ายนี้ ได้พร้อมกันตรวจสำนวนคดีเรื่องนี้แล้ว จึ่งพิพากษาเด็ดขาด ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ มีใจความว่า จำเลยได้โอนทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของจำเลย โจทก์จึ่งฟ้องเรียกเงินรวมทั้งดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้อง เป็นเงิน ๖,๒๗๒,๗๑๒ บาท ๙๓ สตางค์
ในวันเดียวกันนั้นเอง โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ทั้งหมด รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลภายนอกซึ่งถึงกำหนดชำระแก่จำเลยด้วย และโดยที่กรณีมีเหตุฉุกเฉิน จึ่งขอให้ศาลมีคำสั่งจัดให้มีวิธีคุ้มครองตามคำขอโดยไม่ชักช้า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๒ และ ๒๖๗
ศาลแพ่งได้ทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งในวันนั้นเองให้ยกคำร้องของโจทก์เสีย คำสั่งนี้เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๗
ในวันที่ ๒๐ เดือนเดียวกัน โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอใหม่ตามความในมาตรา ๒๖๗ วรรค ๓ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ในคำร้องฉะบับหลังนี้ โจทก์คงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ทั้งหมด รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลภายนอกซึ่งถึงกำหนดชำระแก่จำเลยด้วย เช่นเดียวกับคำขอในคำร้องฉะบับแรก