หน้า:คำพิพากษาคดีกบฏ - กรมโฆษณาการ - ๒๔๘๒.pdf/17

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๔

นายลีจำเลยให้การว่า ตามวันเวลาโจทก์กล่าวหานั้น ได้ใช้อาวุธปืนพกยิงนายพลตรี หลวงพิบูลสงคราม ๒ นัด เพราะเมาสุรา ไม่มีสาเหตุอะไรและไม่มีใครใช้ให้ยิง จำเลยทุกคนนอกจากนายลีให้การปฏิเสธตลอดข้อหา พระยาวิชิตสรไกรให้การคัดค้านอำนาจศาลต่อไปว่า ความผิดฐานกบฏตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๗๖ หาได้อยู่ในข่ายอำนาจศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๘๑ ไม่ ส่วนข้อเคยต้องโทษ นายมณี มติวัชร์, นายทง ช่างชาญกล และหม่อมราชวงศ์นิมิตมงคล นวรัตน์ จำเลยทั้ง ๓ รับว่าจริง

ข้อคัดค้านของพระยาวิชิตสรไกร จำเลย จะฟังได้เพียงไรหรือไม่นั้น เห็นว่าเดิมได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๗๖ ในคำปรารภแห่งพระราชบัญญัตินี้กล่าวว่า “เนื่องจากมีการกบฏและจลาจลเกิดขึ้น เป็นการสมควรที่จะต้องตั้งศาลพิเศษขึ้นพิจารณาคดีในการนี้” และในมาตรา ๔ บัญญัติว่า “ให้ตั้งศาลพิเศษขึ้นศาลหนึ่ง มีอำนาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่เกี่ยวกับการกบฏและจลาจลครั้งนี้” ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๗๖ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๘ ขยายอำนาจศาลที่ได้ตั้งขึ้นแล้วนั้นออกไปอีก โดยมาตรา ๔ บัญญัติว่า “ให้ศาลพิเศษซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๗๖ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีอาญาที่เกี่ยวกับความผิดฐานกบฏและการก่อจลาจล ที่ได้เกิดขึ้นต่อมาจากการกบฏและจลาจลเมื่อคราวเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ จนกระทั่งวันประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้” แต่ในคำปรารภแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลพิเศษ พ.ศ. ๒๔๘๑ กล่าวไว้อย่าง...