สัณฐานประดุจเงากลดนั้นมากั้งช้างพระที่นั่ง ครั้งนั้น ตีทัพพระเจ้าสาวถีซึ่งตั้งอยู่ตำบลสะเกษนั้นแตกพ่ายไป ในปีเดียวนั้น มหาอุปราชายกพลมาโดยทางกำแพงเพ็ชร์ ตั้งทำนาอยู่ที่นั่น.
ศักราช ๙๔๘ จอศก ณวัน ๒ ๘ฯ ๑๒ ค่ำ พระเจ้าหงษางาจีสยางยกพลลงมา เถิงกรุงพระนครณวัน ๕ ๒ฯ ๒ ค่ำ แลพระเจ้าหงษาเข้าล้อมพระนคร แลตั้งทัพตำบลขนอนปากคู แลทัพมหาอุปราชาตั้งขนอนบางตนาว แลทัพทั้งปวงนั้นก็ตั้งรายกันไปล้อมพระนครอยู่ แลครั้งนั้น ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ แลพระเจ้าหงษาเลิกทัพคืนไป ในศักราช ๙๔๙ นั้น วัน ๒ ๑๔ฯ ๕ ค่ำ เสด็จโดยทางชลมารคไปตีทัพมหาอุปราชาอันตั้งอยู่ขนอนบางตนาวนั้นแตกพ่ายลงไปตั้งอยู่ณบางกระดาน วัน ๖ ๑๐ฯ ๖ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนิรออกไปตีทัพมหาอุปราชาอันลงไปตั้งอยู่ณบางกระดานนั้นแตกพ่ายไป วัน ๕ ๑ฯ ๗ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนิรพยุหบาตราออกตั้งทัพไชยณวัดเดช แลตั้งค่ายขุดคูเปนสามารถ วัน ๕ ๘ฯ ๗ ค่ำ เอาปืนใหญ่ลงสำเภาขึ้นไปยิงเอาค่ายพระเจ้าหงษา ๆ ต้านมิได้ ก็เลิกทัพไปตั้งณป่าโมกใหญ่ วัน ๒ ๑๐ ฯ ๔ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนิรออกไปตีทัพข้าเศิก ๆ นั้นแตกพ่าย แลไล่ฟันแทงข้าเศิกเข้าไปจนค่ายพระเจ้าหงษานั้น วัน ๓ ๑๐ฯ ๔ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนิรออกตั้งเปนทัพซุ่มณทุ่งหล่มพลี แลออกตีทัพข้าเศิก ครั้งนั้น ได้รบพุ่งตลุมบอนกันกับม้าพระที่นั่ง แลทรงพระแสงทวนแทงเหล่าทหารตาย ครั้นข้าเศิกแตกพ่ายเข้าค่าย แลไล่ฟันแทงข้าเศิกเข้าไปจนเถิงน่าค่าย วัน ๒ ๑๐ฯ ๓ ค่ำ เพลานาฬิกาหนึ่งจะรุ่ง เสด็จยกทัพเรือออกไปตีทัพพระญานครซึ่งตั้งอยู่ณปากน้ำมุทุเลานั้น ครั้งนั้น เข้าตีทัพได้เถิง