หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/202

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓๙

พระยากำแพงเพ็ชรบังคับราชการในที่กระลาโหม จึงตรัศให้เจ้าพระยากำแพงเพ็ชรถือพลทหารล้อมวังออกไปกันให้ราษฎรทั้งหลายเกี่ยวเข้าณทุ่งชายเคืองที่ทัพพระมหาอุปราชาตั้งอยู่นั้น พระมหาอุปราชาแต่งพลม้าประมาณพันหนึ่งยกออกมารบ ทัพเจ้าพระยากำแพงเพ็ชรก็แตก สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชทรงพระโกรธแก่เจ้าพระยากำแพงเพ็ชร ตรัศให้ลงพระราชอาญาโดยโทษตามพระอัยการศึก สมเด็จพระราชบิดาทรงพระกรุณาตรัศว่า เจ้าพระยากำแพงเพ็ชรเปนแต่พลเรือน มิได้เปนทแกล้วทหาร ขอโทษเจ้าพระยากำแพงเพ็ชรไว้ครั้งหนึ่งก่อน สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชก็มิได้ลงโทษเจ้าพระยากำแพงเพ็ชร แล้วตรัศปฤกษาด้วยท้าวพระยาเสนามาตย์โยธาหาญทั้งหลายว่า ซึ่งเจ้าพระยากำแพงเพ็ชรพ่ายเข้ามาให้ข้าศึกได้ใจดังนี้ เราจะนิ่งไว้ช้ามิชอบ ๆ เราจะยกพยุหบาตราทัพหลวงออกตีทัพมหาอุปราชาอย่าให้ตั้งอยู่ณชายเคืองนั้นได้ ราษฎรทั้งปวงจึงจะได้เกี่ยวเข้าในท้องทุ่งสดวก แล้วตรัศให้ตรวจช้างม้ารี้พลทหารอาสาให้เอาเครื่องสรรพยุทธปืนใหญ่แลปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับลงบรรจุเรือรบเรือไล่สองร้อยลำนั้นสรรพ จึงแต่งทหารให้ลอบออกไปทางบางทางเรือที่ชอบกล ซุ่มพลทหารปืนใหญ่น้อยไว้ จึงยั่วให้ข้าศึกออกไล่ เห็นได้ทีแล้วจึงจะออกทลวงตี ทั้งปืนใหญ่น้อยยิงรดมสาดเอาข้าศึกให้แตกฉานอย่าให้คุมกันติด ฝ่ายกองทหารอาสาก็ไปซุ่มอยู่ตามรับสั่ง จึงสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชก็เสด็จด้วยพระชลวิมานลำเดียวกันไปโดยชลมารค แล้วท้าวพระยาพระหัวเมืองขุนหมื่นทหารทั้งปวงก็ไปโดยขบวน