หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/203

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๐

น่าหลัง ครั้นถึงตำบลชายเคืองใกล้ทัพพระมหาอุปราชาตั้งอยู่นั้น จึงตรัศให้ทหารอาสาขึ้นไปยั่วข้าศึกน่าค่าย แลข้าศึกก็ยกออกมา ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ ฝ่ายกองทหารอาสาที่ซุ่มอยู่นั้นก็ยกพลออกทลวงตียิงปืนใหญ่น้อยสาดไปต้องข้าศึกล้มตายเปนอันมาก ข้าศึกมิได้รส่ำรสาย ยกหนุนวกลงมาข้างริมน้ำ ฝ่ายทัพกรุงก็วางปืนใหญ่แลปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับขึ้นไปแต่เรือรบ ต้องพม่ามอญแลช้างม้าตายเปนอันมาก แลพลข้าศึกนั้นยังต่อรบอยู่ ขณะนั้น สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชเสด็จออกยืนน่าแคร่พระที่นั่งทั้งสองพระองค์ ทรงปืนนกสับยิงต้องข้าศึกช้างม้าแลคนตายมาก ทหารชาวกรุงก็ยิงปืนรดมไป ฝ่ายข้าศึกก็ลงมาสกัดข้างหลังเรือพระที่นั่ง แล้วยิงปืนไฟตอบมาเปนสามารถ แลเรือรบข้าหลวงทั้งปวงทานมิได้ก็พ่ายมาสิ้น ยังแต่เรือพระที่นั่งแลเรือรบห้าลำอยู่ยิงตอบกันไปมา ฝ่ายข้าศึกยิงปืนไฟมาต้องฉลองพระองค์สมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบรมบพิตรอันทรงนั้นแต่ปลายพระหัดถ์ขาดขึ้นไปถึงต้นพระพาหุ อนึ่ง ข้าศึกยิงปืนไฟมาต้องคนในเรือกันนั้นเจ็บป่วยลำบากมาก แต่กระสุนปืนนกสับข้าศึกยิงมาตกอยู่ณเรือพระที่นั่งนั้นประมาณสามสิบกระสุน พอเพลาค่ำ เสด็จคืนเข้าพระนคร.

ครั้นณวัน ๑๑ ค่ำ เพลาสิบเอ็จทุ่ม สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชเสด็จยกพยุหบาตราทัพออกจากพระนครข้ามไป สมเด็จพระเชษฐาทรงช้างต้นเจ้าพระยาปราบไตรจักรสูงหกศอกสิบเอ็จนิ้วติดน้ำมันน่าหลัง สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าทรงพระคชาธารจักรมหิมาสูงหกศอกคืบติดน้ำมันน่าหลัง เจ้าพระยามหาเสนาขี่ช้าง