ผู้ใช้:Patsagorn Y./กระบะทราย/2020-02-19/

จาก วิกิซอร์ซ


กาลครั้งหนึ่งในเวลาย่ำค่ำ มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ป่าช้าในชนบทท่ามกลางหลุมฝังศพมากมาย บรรยากาศที่วังเวงทำให้เขารำพึงกับศพ และเขียนความในใจเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

เมื่อเสียงระฆังบอกเวลาใกล้ค่ำ ฝูงวัวควาย ชาวนาที่เหนื่อยจากการทำงานก็กลับบ้าน เหลือเพียงท้องทุ่งที่มืดมิด อากาศก็เริ่มเย็น ได้ยินเสียงจิ้งหรีด เสียงเกราะวัวควายมาแต่ไกล เสียงนกแสกร้องดังเหมือนจะฟ้องดวงจันทร์ว่ามีคนบุกรุกพื้นที่ของมัน บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่ที่เนินมีหลุมฝังศพของชาวบ้าน ตัวเราก็ใกล้จะได้นอนในหลุมนั้นขึ้นทุกวัน คนที่ตายไปแล้วก็หมดห่วง แม้ว่าเสียงไก่ขันในยามเช้าเหมือนจะปลุกให้พวกเขาตื่นขึ้นมา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยิน กองข้าวสูงเท่าโรงนาที่เคยเก็บเกี่ยว ความรู้ความสามารถ เมื่อตายไปแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ ไม่ว่าใครสุดท้ายก็ต้องตาย คุณงามความดีมากมายแต่ไม่มีใครรู้เมื่อตายไป ก็เหมือนอัญมณีที่อยู่ในภูเขาหรือใต้ทะเลลึกที่ไม่มีใครเคยเห็น เหมือนดอกไม้สวยกลิ่นหอมที่อยู่ไกลไม่เคยมีใครเคยดม บางคนทำตัวให้ภายนอกดูดีเพื่อปกปิดความชั่วของตน ทุกคนล้วนห่วงชีวิตของตนเอง ขอให้ดวงจิตทั้งหลายลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากมีหรืออยากเป็น ลืมภาระ ลืมที่อยู่ เพื่อให้หมดห่วง เมื่อเราตายขอเพียงญาติพี่น้องอาลัยและทำพิธีทางศาสนาให้ คิดแล้วก็เศร้า แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่มีเกิดต้องมีตาย

อ้างอิง[แก้ไข]